กาฬสินธุ์น้ำตาท่วมวัดเผาศพน้องนุ่มนิ่มไร้เงาผู้กองบอยร่วม

กาฬสินธุ์น้ำตาท่วมวัดเผาศพน้องนุ่มนิ่มไร้เงาผู้กองบอยร่วม

กาฬสินธุ์น้ำตาท่วมวัดเผาศพน้องนุ่มนิ่มไร้เงาผู้กองบอยร่วม

บรรยากาศงานศพน้องนุ่มนิ่ม หรือนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ ที่เมรุสถานภายในวัดประจำหมู่บ้านเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมรุ่นจากหลายจังหวัดเดินทางไว้อาลัยครั้งสุดท้ายอย่างเนืองแน่น แต่ไร้เงาผู้กองบอย หรือ ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง สามี ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นแสนเสียดายเพื่อนหญิง นิสัยดี รักความก้าวหน้า แต่ไม่น่าอายุสั้น รวบรวมเงินสมทบทำบุญส่งเพื่อนสาวขึ้นสวรรค์และแต่งดำไว้ทุกข์

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านดงเค็ง หมู่ 4 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ฌาปนกิจศพศพน้องนุ่มนิ่มหรือนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ อายุ 29 ปี หลังเสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ โดยถูกผู้กองบอยหรือ ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง รองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง สามี ซึ่งอ้างว่าปืนลั่นถูกศีรษะเสียชีวิต และตั้งศพสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลตามประเพณี 3 คืน โดยทางญาติได้เคลื่อนศพออกจากบ้าน เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณีในเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ มีญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมรุ่นน้องนุ่มนิ่ม เดินทางมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่างเดินทางมาร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้ายให้กับน้องนุ่มนิ่มเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะนางทองใส ภูคงน้ำ มารดาน้องนุ่มนิ่ม และนายสมัย ภูคงน้ำ น้าชายน้องนุ่มนิ่ม รวมทั้งญาติและเพื่อนสนิทอีกหลายคน ที่หลั่งน้ำตาและร้องไห้ตลอดเวลา

นายประไพ ภูผาทอง อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ลุงน้องนุ่มนิ่ม กล่าวว่า ตนยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่น้องนุ่มนิ่มถูกสามี คือผู้กองบอยใช้ปืนขู่ และอ้างว่าปืนลั่นถูกศีรษะเสียชีวิต ซึ่งไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม แต่ผู้กองบอยคือผู้ต้องหา ที่พรากชีวิตของน้องนุ่มนิ่มที่เป็นลูกเป็นหลานของเราไปอย่างไม่มีวันกลับ ผู้กองบอยจึงสมควรได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ถึงแม้เมื่อวานนี้เขาจะเดินทางขอขมาศพน้องนุ่มนิ่ม รวมทั้งกราบขอโทษแม่และพี่ชายน้องนุ่มนิ่ม และรีบกลับไป ทั้งเคยบอกว่าจะกลับมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพ เพื่อส่งดวงวิญญาณน้องนุ่มนิ่มขึ้นสวรรค์ แต่สุดท้ายแล้วผู้กองบอยก็ไม่มา ญาติหรือตัวแทนก็ไม่มา และคาดว่าคงเดินทางกลับกรุงเทพฯแล้ว ซึ่งก็แล้วแต่เขา แต่ในส่วนคดี ก็ต้องขอพึ่งขบวนการทางยุติธรรมต่อไป เพื่อให้เข้าได้รับโทษตามกรรมที่ได้ก่อไว้

ด้านนางสาวสกุลรัตน์ ภูบำรุง อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 26 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องและญาติน้องนุ่มนิ่มกล่าวว่า ตนกับพี่นุ่มนิ่มสนิทกันมาก เมื่อก่อนมีอะไรคอยเล่าสู่กันฟังและปรึกษากันตลอด ระยะหลังๆมานี้ไม่ค่อยติดต่อกัน เพราะต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ตนทราบว่าพี่นุ่มนิ่มเป็นคนขยัน ชอบค้าขาย หารายได้ และไม่ทราบว่าคบหาและมีแฟนเป็นตำรวจ ก็เพิ่งจะทราบตอนได้ยินข่าวร้ายเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ตนและทุกคนยังทำใจไม่ได้ ก็ได้แต่น้อมจิตอธิษฐานให้พี่นุ่มนิ่มไปสู่สุคติ และจะขอเป็นอุทาหรณ์สอนใจ โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะมีคู่ครอง ขอให้ตรวจสอบและเช็คประวัติดีๆ เพื่อที่จะไม่ถูกหลอกลวงหรือถูกสามีทำร้ายร่างกายถึงแก่เสียชีวิต

ขณะที่ตัวแทนเพื่อนร่วมรุ่น ในนามศิษย์เก่าอนุกูลนารี 51 (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) กล่าวว่า ได้ทราบข่าวน้องนุ่มนิ่มเสียชีวิตจากโลกโซเชียล ซึ่งครั้งแรกตกใจมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เสียชีวิตนั้นจะเป็นเพื่อนสาวของตน ที่ร่ำเรียนและผูกพันกันมาตั้งแต่เรียน ม.ต้น เพราะนุ่มนิ่มเป็นคนอัธยาศัยดีมาก จริงใจ มีน้ำใจต่อเพื่อน จึงเป็นที่รักของเพื่อนๆมาก แต่จบชั้น ม.6 และแยกย้ายกันไปศึกษาต่อและทำงาน ก็ติดต่อกันเป็นประจำ แม้แต่งานเลี้ยงร่วมรุ่นปีที่แล้ว ก็มาพบกันตามประสาเพื่อนเก่าที่ยังรักและผูกพันกัน สำหรับตนนั้นนุ่มนิ่มสนิทกันมาก และเมื่อเช็คแล้วว่าคนที่เสียชีวิตคือนุ่มนิ่มก็ใจหาย รีบประสานเพื่อที่แยกย้ายกันไปทำงานตามหน่วยงานต่างๆ และเดินทางมาร่วมไว้อาลัย คนที่ไม่มีโอกาสมาก็โอนเงินมาร่วมทำบุญ ทั้งนี้ เพื่อส่งดวงวิญญาณของเพื่อนสาวขึ้นสวรรค์ และไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ต้องจองเวรจองกรรมกับใคร

ด้านนางทองใส ภูคงน้ำ มารดาน้องนุ่มนิ่ม กล่าวว่า วันนี้ส่งลูกสาวครั้งสุดท้าย ยังทำใจไม่ได้ในการสูญเสีย ในส่วนผู้กองบอยที่วันนี้ไม่ได้มาร่วมงาน ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ทั้งนี้เรื่องของคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งหลังเสร็จงานศพญาติจะคุยปรึกษากันอีกครั้งว่า จะตั้งทนายยื่นเรื่องอุทธรณ์คัดค้านการประตัวต่อไป ซึ่งรอให้เสร็จพิธีก่อน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม