แม่เมืองคอนหลั่งน้ำตาเผยลูกสาวตกเป็นทาสยาและตั้งท้องจนต้องออกจาก รร.หมดอนาคต-ก่อนล่ามโซ่ไม่ให้ออก
ผู้ว่า ฯ,ผู้การ ฯเมืองคอนเต้นลุยหมู่บ้านค้ายาเยี่ยมบ้านแม่ล่ามโซ่ลูกไม่ให้ออกไปเสพยานรก- แม่หลั่งน้ำตาเผยลูกสาวตกเป็นยานรกและตั้งท้องจนต้องออกจาก รร.หมดอนาคตก่อนล่ามโซ่ไม่ให้ออกไปเสพยานรก -บิ๊กตำรวจยืนยันผลการจับกุมต่อเนื่อง 6 เดือนมากถึง 104 คดี และรอบ 9 เดือน 285 คดี
จากกรณีที่ชาวโลกโซเชี่ยลได้เข้าไปติดตามและแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊คของ “กำนันสุกิจ เนียม รินทร์” กำนันตำบลหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายว่า “ขอใช้พื้นที่ระบายความรู้สึกทีครับ เรื่องของหมู่ 1 ตำบลหน้าสตนอำเภอหัวไทรจังหวัดนครศรีธรรมราช ผมลูกบ้านแจ้งตลอดว่าในพื้นที่หมู่ 1 มีพ่อค้ายาเสพติดเป็น 10 รายลูกบ้านเสพยาบ้าเหมือนจะทั้งหมู่บ้านเสียสติคลุ้มคลั่งก็หลายคนลูกบ้านโทรมาระบายให้ฟังผมอัดเสียงไว้ผมส่งคลิปเสียงในกลุ่มไลน์ของอำเภอเพื่อให้ผู้บังคับบัญชารับทราบปัญหาแต่ผู้ใหญ่บ้านกลับเอาคริบเสียงไปเปิดให้คนขายยาฟังคนที่แจ้งผมกลับถูกคนขายคุกคามอยู่ไม่เป็นสุขชาวบ้านที่ถูกคุกคามก็ทำหนังสือร้องเรียนอำเภอทุกอย่างก็เงียบไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริง หลายครั้งผมลงไปจับเอง
“มีอยู่ครั้งหนึ่งผมจับยาได้เจ็ดสิบกว่าเม็ดซึ่งเป็นเวลากลางคืนเจ้าของยาบ้าก็วิ่งหนีไปได้ผมเอายาบ้าส่งร้อยเวร ส.ภ หัวไทร เวลาผ่านไปเป็นเดือนแล้วก็ไม่มีการสืบสวนหาเจ้าของยาบ้ามาลงโทษตามกฎหมาย ถ้าอยู่แบบนี้แล้วจะให้ชาวบ้านไปพึ่งใคร ต้องรอให้บ้าหมดทั้งหมู่บ้านก่อนหรือครับ แล้วถ้าเป็นแบบนี้จะให้ผมทำอย่างไรครับ จนปัญญาแล้วจริง ๆ ครับ ส่วนในรูปภาพที่เห็นแม่ล่ามลูกสาวตัวเองไว้เพื่อไม่ให้ออกไปเสพยาครับ” ตามมที่เสนอข่าวมาแล้วนั้น
(9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับโพสต์ดังกล่าวของนายสุกิจ เนียมรินทร์ ดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชนนอย่างกว้างขวาง ล่าสุดมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นมากถึง 3.5 พันราย และแชร์อีก 5.7 พันราย ส่วนหนึ่งผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ระบุชัดเจนเรื่องราวปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคน บางกลุ่มในแต่ละพื้นที่ร่วมรับผลประโยชน์อยู่ด้วย พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองร่วมมือกันปราบปรามอย่างจริงจัง และตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การให้ออกไล่ออกจากราชการเพราะเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ในเช้าวันเดียวกันนี้ (9 ก.ค.) นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอหัวไทร พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.หัวไทร พ.ท.ธิติพงษ์ เอกก้านตรง ผบ.พัน สห. 41 ทภ.4 นายสุกิจ เนียมรินทร์ กำนัน ต.หน้าสตน สนธิกำลังตรวจค้น หมู่ 1 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พบผู้เสพมีประวัติค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปตรวจสารเสพติดและสอบสวนขยายผดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป และจากการสอบถามประชาชนรับว่ามียาเสพติดแพร่ระบาดอย่างหนัก แต่หลังจากนายสุกิจ เนียมรินทร์ กำนัน ต.หน้าสตน โพสต์ข้อความระบายความรู้สึกจนกลายเป็นข่าวทางสื่อมวลชนอย่างกว้างขวางทำให้ ผู้ค้าหลายรายในหมู่บ้านหลบหนีไป จึงขอให้ทางราชการเข้ามาปราบปรามให้เด็ดขาด
หลังจากนั้นนายศิริพัฒ พัฒกุล พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ และคณะ ฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมครองครับนางรานี อิมหมัน อยู่บ้านเลขที่ 48/2 หมู่ 1 ต.หน้าสตน ที่ล่ามโซ่ น.ส.สุ (นามสมมุติ) บุตรสาววัย 18 ปี ที่ติดยาเสพติดงอมแงมไม่ให้ออกไปเสพยาเสพติด จนนายสุกิจ เนียมรินทร์ กำนัน ต.หน้าสตน สุดทนนำภาพและข้อความมาโพสตฺในเฟซบุ๊ก และสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกันอย่างกว้างขวาง
นางรานี อิมหมัน ให้การว่าเมื่อ2 ปีก่อนในช่วงที่ น.ส.สุ บุตรสาวเรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น อายุ 15 -16 ปีก็ต้องออกจากโรงเรียนเนื่องจากตั้งครรภ์โดยไม่พึ่งประสงค์และต่อมาเริ่มเสพยาเสพติดกับสามีจนติดยางอมแงมและคลุ้มคลั่งในบางครั้งเพราะฤทธิ์ยาเสพติด จนกระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมาตนได้ตัดสินใจนำบุตรสาวมาล่ามโซ่ไว้ไม่ให้ไปมั่วสุมเสพยาเสพติด และไม่ได้มีเจตนาทรมารร่างกายแต่อย่างใด จึงอยากให้ทางราชการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการบำบักดรักษา น.ส.สุ รวมทั้งเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติดที่แพร่ระบาดในพื้นที่อย่างหนัก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้มอบหมายให้นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอหัวไทร ประสานกับสาธารณสุขอำเภอหัวไทรรับตัว น.ส.สุ ไปเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดทันที พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่และจับกุมผู้ที่เกี่ยงวข้องมาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ทางด้าน พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ยอมรับว่าในพื้นที่ อ.หัวไทร โดยเฉพาะหมู่ 1 ,3 และหมู่ 7 ต.หน้าสตน มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างรุนแรง โดยตำรวจก็เข้มงวดในการปราบปรามต่อเนื่อง โดยรอบ 6 เดือน ตำรวจจับกุมผู้ค้ารายย่อยในหมู่ 1 ,3 และ 7 ต.หน้าสตน ได้ทั้งสิ้น 104 คดี และในรอบ 9 เดือนที่ตนมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.หัวไทร มาถึงปัจจุบันมีผลงานการจับกุมในพื้นที่ดังกล่าวมากถึง 285 คดีและดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดไม่มีละเว้น สำหรับเรื่องที่นายสุกิจ เนียมรินทร์ กำนัน ต.หน้าสตน พบยาบ้า 70 เม็ด โดยไม่รู้ตัวผู้ครอบครองและนำมามอบให้พนักงานสอบสวน สภ.หัวไทรน นั้น ได้ดำเนินการทางลับและทางด้านเทคโนโลยีจนสามารถทราบเครือข่ายเกือบครบแล้ว ซึ่งจะได้เสนอขอหมายจับกุมและบูรณาการกำลังติดตามจับกุมต่อไป
ในขณะที่ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ทาง พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เรียกประชุมและเน้นย้ำนโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และกำชับให้ทุก สภ.เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามยาเสพติด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ถูกแก๊งค้ายาซัดทอดว่าอยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดในหลายท้องที่ โดยเฉพาะตำรวจชุดสายสืบ 2 นายของ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ทางผู้การ ฯ ได้เรียก ผกก.สภ.เฉลอมพระเกียรติ และพนักงานสอบสวนมาพบเพื่อตรวจสอบสำนวนการสอบสวนและเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับกุม คาดว่าจะสามารถเสนอศาลอนุมัติหมายจับกุมได้ในเร็ว ๆ นี้
“ยอมรับว่าการดำเนินการของฝ่ายตำรวจในเรื่องยาเสพติดอาจจะเงียบไม่เป็นข่าวครึกโครม แต่กระบวนการดำเนินการสอบสวนเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เงียบไม่เป็นข่าวแต่ไม่ได้เงียบหายหรือตำรวจต้องการช่วยเหลือกันเอง แต่เงียบเพราะเหตุผลของการดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวกับยาเสพติดจะต้องละเอียด รอยคอบ แต่ทำตรงไปตรงมา เด็ดขาด ไม่มีการช่วยเหลือคนที่ทำผิดอย่างแน่นอน ผู้การ ฯเมืองคอนประกาศชัดเจนว่าตำรวจหรือข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะไม่เลี้ยงไว้อย่างแน่นอน “กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย” ก่อนหน้านี้ของ สภ.ชะอวด เงียบกว่านี้เสียอีกแต่สรุปในที่สุดไล่ออกจากราชการและถูกดำเนินคดีทางอาญาอย่างเฉียบขาดไม่มีละเว้น ดังนั้นในส่วนของตำรวจสายสืบ 2 รายของ สภ.เฉลิมพระเกียรติ อีกไม่นานเกินรอ” รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวย้ำ .
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช