หนุ่มคลั่งขอคืนดีไม่สำเร็จ ลั่นไกใส่แม่ยายพร้อมเมีย ก่อนปลิดชีพตัวเองตาม
วันนี้ 17 พฤษภาคม 63 เวลา 11.20 น. ร.ต.ท.ณัฐพล ณัฐพัฒนโรจน์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีการยิงกันโดยมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บริเวณซอยสวนมะลิ 2 หมู่ที่ 5 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ถนนลูกรังในชุมชนเป็นทองนาและมีสวนดอกรักสลับในพื้นที่ ที่ริมถนนติดกันคันนา เจ้าหน้าที่พบศพนายสุวัฒน์ วังมะนาว หรือเบส อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 ม.23 ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม นอนเสียชีวิต สภาพหงายท้อง โดยสวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน เสื้อคลุมทหารลายพรางสีเขียว กางเกงสามส่วน สีแดงเลือดนก ที่ข้างต้นขาซ้ายพบอาวุธปืน ขนาด .22 ลูกโม่ สีเงิน ตกอยู่ข้างตัว มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนขนาด .22 ที่ศรีษะ ถัดไปประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุน 1 ปลอก และที่ยังไม่ได้ยิง 3 นัด ใกล้ตัวยังพบกระสุนอีกหลายนัด และมีหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบตกอยู่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ห่างไปประมาณ 50 เมตรเป็นบ้านไม้ริมสวนดอกรักพบมีญาติของคนที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บกำลังจับกลุ่มพูดคุยกันด้วยความตกใจ โดยมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กง 6006 กาญจนบุรี จอดอยู่ ทราบผู้ถูกยิง 2 รายคือ นางบรรจง พูลชาติ อายุ 52 ปี แม่ถูกยิงเข้าที่กกหู 1 นัด บริเวณหน้าท้อง และนางสาวอรณัชชา ชิมรัม หรือเมย์ อายุ 24 ปี บุตรสาวถูกยิงด้วยกระสุนขนาดเดียวกัน 1 นัดที่หน้าอก ถูกญาตินำส่งโรงพยาบาลห้วยพลูและส่งต่อที่โรงพยาบาลนครปฐม ทีมแพทย์พยาบาลได้ช่วยชีวิตจนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย
สอบถาม นางสาวบุศราคัม พูลชาติ หรือมิ้นท์ อายุ 19 ปี บอกว่าผู้ที่ถูกยิง 2 คือนางบรรจง เป็นแม่ของตนเองและนางสาวอรณัชชา หรือเมย์ เป็นพี่สาวของตนเอง ส่วนผู้ตายคือนายสุวัฒน์ หรือเบส เป็นอดีตสามีของ นางสาวอรณัชชา หรือเมย์ โดยเพิ่งแต่งงานกันได้ 1 ปีเศษและมีลูกอายุ 1 ขวบ 1 คน โดยทั้งคู่ได้เลิกลากันไปได้หลายเดือนก่อนหน้าเพราะมีปัญหาเนื่องจากฝ่ายชายนั้นเป็นคนขี้โมโหจนฝ่ายหญิงทนไม่ไหวและขอแยกทาง ฝ่ายชายจึงได้กลับไปช่วยที่บ้านเลี้ยงวัวที่ อำเภอกำแพงแสน
โดยนางสาวบุศราคัม หรือมิ้นท์ บอกว่า ก่อนเกิดนายสุวัฒน์ หรือเบส ได้ขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดในบ้านที่เกิดเหตุ และได้เดินมาถามหาอดีตภรรยาก่อนจะเดินไปเตะหมาและเดินเข้าบ้าน โดยตนเองได้บอกว่าให้นางบรรจง ผู้เป็นแม่โทรศัพท์แจ้งตำรวจ ขณะที่ผู้ตายได้ท้าทายให้โทรไปแจ้งได้เลย แม่ได้พยายามวิ่งหนี แต่คนร้ายได้ชักปืนมายิงใส่แม่ 2 นัด และคนร้ายก็ยังยิงใส่พี่สาวของตนเองอีก 1 นัด เมื่อยิงเสร็จจนลูกปืนหมด คนร้ายได้วิ่งหนีไปที่ริมถนนติดกับท้องนา ซึ่งตนเองได้พยายามวิ่งตามไป แต่เห็นว่าแม่นั้นมีเลือดออกมากจึงได้วิ่งกลับมาพยุงแม่เพื่อจะไปส่งที่บ้านน้าชายที่อยู่ตรงข้าม คนร้ายก็วิ่งตามกลับมาที่ตนเองอีก จู่ๆนายสุวัฒน์ หรือเบส ก็ได้วิ่งหายกลับไปและมาพบอีกทีคือเป็นศพอยู่ที่บริเวณดังกล่าวแล้ว
นางวันนา พูลชาติ อายุ 44 ปี น้องสาวของนางบรรจง บอกว่าก่อนเกิดเหตุพี่สาวและหลานสาวของตนเองก็มีความเครียดเนื่องจาก นายสุวัฒน์เป็นคนเจ้าอารมณ์ และได้เลิกกับหลานสาวของตนเองมาได้ระยะหนึ่ง ก่อนหน้าเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็มีลูกเขยอีกคนบอกว่า เห็นนายสุวัฒน์ หรือเบส ที่ได้แยกย้ายกลับไปอยู่บ้านของตัวเอง ก็ได้มีการวนเวียนกลับมาหา ซึ่งทางนางบรรจง พี่สาวได้คิดหนักว่าลูกเขยน่าจะกลับมาเอาของอะไรสักอย่าง เพราะได้ประกาศไว้ก่อนหน้าว่าถ้ากลับมาคืนดีไม่ได้ใครก็ไม่ต้องได้ไปและจะยิงทิ้งด้วย ตนเองดูข่าวโซเชียลเห็นเหตุการณ์แบบนี้ก็กลัวว่าเหตุร้ายจะเกิดขึ้นจึงได้มีการโทรคุยกับพี่สาวทุกวัน กระทั่งวันนี้ก็มาเกิดเหตุขึ้นจริงๆ
“วันนี้ก็พยายามจะขอถ่ายภาพอดีตหลานเขย ตำรวจก็ไม่ให้ถ่าย ซึ่งตนเองอยากจะมีหลักฐานยืนยันว่า นายเบส นั้นยิงตัวตายจริงๆ ไม่ได้มีใครทำ เพราะกลัวทางญาติผู้ตายจะมากล่าวหา โดยเรื่องนี้เคยมีการแจ้วความไปแล้วและเคยไปคุยกับพ่อแม่ของผู้ตาย ในช่วงที่ทั้งคู่มีปัญหากัน โดยยังโดนตำหนิมาว่า จะมารับหลานสาวคือ เมย์กลับบ้านก็ต้องพาคนมาบ้านเยอะแยะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดีว่าทั้งคู่มีปัญหากันจริงๆ แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่อง” นางวันนากล่าว
ขณะเดียวกันหลังตรวจสอบพื้นที่เสร็จสิ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้มีการนำศพของผู้ตายไปทำการชันสูตรเบื้องต้นถึงสาเหตุการตาย ที่โรงพยาบาลห้วยพลูนครชัยศรี และเชิญพยานในเหตุการณ์ไปสอบปากคำทั้งหมดเพราะยังไม่มีใครเห็นว่ามีนายสุวัฒน์ หรือเบส นั้นเสียชีวิตอย่างไร แต่คาดว่าอาจะเกิดความเครียดจัดและคิดว่าทั้งแม่ยายและอดีตภรรยา เสียชีวิตแล้วจึงมีการยิงตัวตายแต่ต้องรอการสอบปากคำและสรุปหลักฐานทั้งหมดก่อนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมีคนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในจุดที่นายสุวัฒน์เสียชีวิต โดยกำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน