“กต.” ลั่น “นักการทูต” ไม่ใช่ “วีไอพี” ไม่มีอภิสิทธิ์ ยังต้องถูกกักตัว 14 วัน แม้มี “อนุสัญญาเวียนนา” คุ้มครอง เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่มีประสิทธิภาพ แต่ต้องทำตามกฎเจ้าบ้าน
กลายเป็นประเด็นปัญหา ว่าคณะทูตต่างประเทศที่เดินทางเข้ามา ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของไทย โดยเฉพาะกรณีครอบครัวคณะทูตซูดาน ที่พบว่ามีเด็ก9ขวบติดเชื้อโควิด-19 และกรณีล่าสุด ทูตเอสโตเนีย ที่ถูกคอนโดหรูย่านสุขุมวิทปฏิเสธให้เข้าพักนั้น
ล่าสุด นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงชี้แจงว่า กระทรวงต่างประเทศ ได้หารือและปรับมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น และได้ส่งจดหมายไปยังสถานทูตต่างๆ ว่า เมื่อเดินทางมาถึงไทยและรับการตรวจคัดกรองแล้ว ขอให้รอผลยืนยันก่อนว่า ผลตรวจเป็นลบ จึงจะออกจากสนามบินได้ เช่นเดียวกับกรณีนักการทูตเอสโตเนีย ที่ผ่านการตรวจและผลออกมาเป็นลบจึงออกจากสนามบินได้ไปยังที่พัก ซึ่งเป็นสถานที่กักตัว 14 วัน ตามที่หน่วยงานต้นสังกัดกำหนด โดยนักการทูตทุกรายที่เข้ามา การเข้ามาจะต้องทำภายใต้กฎระเบียบที่ศบค. วางไว้
“หลายท่านมักพูดว่าการเข้ามาของนักการทูตเป็นวีไอพีหรือเป็นเอกสิทธิ์การคุ้มกัน ขอเรียนว่านักการทูตไม่ใช่วีไอพี ไม่ได้มีอภิสิทธิ์เกินกว่าที่ควรจะเป็น เขายังอยู่ภายใต้การกักตัว 14 วันเช่นกัน แต่จะได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาเวียนนา ซึ่งเป็นการคุ้มครองเพื่อให้สามารถปฎิบัติหน้าที่ในประเทศของเราอย่างมีประสิทธิ์ภาพในฐานะตัวแทนการทูต ในฐานะผู้แทนของรัฐแต่อย่างไรก็ตามภายใต้อนุสัญญาเวียนนานักการทูตต้องเคารพและปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายของประเทศเจ้าบ้านด้วย ดังนั้นต้องปฏิบัติตามมาตรการของศบค.” นายเชิดเกียรติ กล่าว
นายเชิดเกียรติ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น แต่ระหว่างนี้ เรายังใช้ระเบียบเดิมอยู่ คือ การใช้ที่พักเป็นที่กักตัว 14 วันภายใต้การดูแลของหน่วยงานต้นสังกัดและในช่วงบ่ายวันเดียวนี้จะมีการเชิญตัวแทนคณะทูตทั้งหมดในประเทศไทยมารับฟังบรรยายสรุป เพื่อสร้างความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทางคณะทูตด้วย