นายอำเภอสัตหีบ นายก อบต. พลูตาหลวง กำนัน ป่าไม้ รุดตรวจสอบสำนักสงฆ์โพธิยะ (ธรรมยุต)พบหลักฐานขุดภูเขา ย้ายดินออกพื้นที่จริง สั่งระงับ พร้อมตรวจสอบพื้นที่ติดต่อล่อแหลมต่อการบุกรุก แผ้วถาง กีดขวางทางน้ำธรรมชาติ แจ้งที่ดินตรวจสอบแนวเขตเอกสารสิทธิครอบครอง ถ้าพบบุกรุกป่าแจ้งความดำเนินคดี
เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2563 นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ม.8 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าขณะนี้ได้มีรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน ขึ้นไปขุดดินบนภูเขาและรถบรรทุกสิบล้อ หลายคันได้เข้าไปบรรทุกดินออกมา จึงได้แจ้งให้ พ.จ.อ.วิษณุ โตสมบัติ นายก องค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง นางสุทธารัตน สนามชัย กำนันตำบลพลูตาหลวง พร้อม ประสาน นายบงกรด อุ่นเรือน หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ บางละมุง (ชบ.1)เดินทางเข้าพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่
ต่อมา นางพิกุล โสภา ปลัดอำเภอสัตหีบ นายสมบูรณ์ ลาลาด รอง นายก อบต.พลูตาหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่าง และเทศกิจ นางสุทธารัตน สนามชัย กำนันตำบลพลูตาหลวง นายบงกรด อุ่นเรือน หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ บางละมุง (ชบ.1)พร้อมเจ้าหน้าที่ ป่าไม้ได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่สำนักสงฆ์โพธิยะ สาขาโพธิสัมพันธ์ ปรากฎว่าได้พบล่องรอยการขุดดินลูกรังจากภูเขาภายในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักสงฆ์ ออกไปจำนวนมาก และพบบริเวณข้างเคียงมีขุดขุดดิน แผ้วถางพื้นที่ป่าในวงกว้าง เบื้องต้นได้สั่งระดับการดำเนินการ เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตพื้นที่ในการปรับหน้าดิน อีกทั้งมีการขุดภูเขาอีกด้วย
นางพิกุล โสภา ปลัดอำเภอสัตหีบ พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ได้สอบถามพระสงฆ์ที่จำพรรษาภายในสำนักสงฆ์แห่งนี้ ทราบว่า มีพระจำพรรษา จำนวน 5 รูป เจ้าสำนักได้มรณภาพไปแล้ว การที่มีรถเข้ามาขุดภูเขา และแผ้วถางพื้นที่ใกล้เคียงสำนักสงฆ์ อีกจำนวนหลายไร่นั้น ได้มีนายทหารเรือ ยศ “ พลเรือเอก” เกษียณราชการไปนานแล้ว ได้ให้รถแบคโฮ รถบรรทุกเข้ามาดำเนินการ เพื่อจะทำที่จอดรถ และที่กลับรถภายในสำนักสงฆ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ญาติ โยม ที่ขึ้นมาปฏิบัติธรรม
ส่วนความเป็นมาของสำนักสงฆ์แห่งนี้ อาตมาไม่ทราบว่า ได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ เพียงทราบว่าที่ดินแปลงริมภูเขาแห่งนี้ ทางด้าน นายทหารเกษียณอายุ ยศ พลเรือเอก ได้ถวายที่ดินพื้นทีริมภูเขา จำนวน 3 ไร่ ให้กับพระยอด(เจ้าสำนักองค์เก่าที่มรณภาพไปแล้ว) ต่อมาได้มีญาติ โยม ได้เข้ามาร่วมสร้างที่พักสงฆ์ ศาลาปฏิบัติธรรม ถวาย โดยที่ไม่ทราบเลยว่า สำนักสงฆ์แห่งนี้ถูกต้องหรือไม่ จดทะเบียนไว้กับสำนักพระพุทธศาสนา หรือเปล่า
นายบงกรด อุ่นเรือน หน.หน่วยป้องกันรักษาป่า กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบพื้นที่แล้วสำนักสงฆ์ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้แน่นอน และได้ตรวจสอบครอบแนวเขตที่ดินบริเวณรอบ ๆ อีก 4 จุด ในเบื้องต้น พบว่า ที่ดินใกล้เคียงที่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครองแล้ว ประมาณ 7 ไร่กว่า ๆ ห่างจากสำนักสงฆ์ ส่วนที่มีการขุด แผ้วถางที่ดินป่าต้นน้ำนั้น เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดิน เพราะไม่ปรากฏในแผนที่ อีกทั้งได้ตรวจสอบทะเบียนสำนักสงฆ์แล้ว เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการแจ้งไว้กับสำนักพุทธศาสนา จะต้องตรวจสอบให้แน่นอนอีกครั้ง
และได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้สั่งระงับการดำเนินการ ร่วมกับ อำเภอ อบต. ฯ กำนัน แล้ว จะต้องดำเนินการทำรายละเอียดของที่ดินทั้งหมด รายงานให้นายอำเภอสัตหีบ ทราบ และเสนอให้ ที่ดินสัตหีบ มาดำเนินการตรวจสอบ รังวัดแนวเขตอย่างละเอียดอีกครั้ง ถ้ามีการกระทำความผิดในเรื่องของป่า ภูเขา และบุกรุกที่ดินต้องแจ้งความดำเนินคดี และตรวจยึดคืนแผ่่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวแจ้งว่า จากกรณีดังกล่าว ได้มีผู้ประกอบการรถแบคโฮ ได้ขันอาสาปรับพื้นที่ให้ทางสำนักสงฆ์ โดยไม่คิดเงิน แต่ว่าได้นำดินลงมาขายถมที่ดินให้นายทุน ด่านล่างสำนักสงฆ์ โดยมีคนเห็นว่ามีคนจดบิล จำนวนเที่ยวที่เอาออกมาด้วย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปได้มีการขนย้าย รถแบคโฮ และรถบรรทุกดิน รีบหนีออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว
ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน