“แรมโบ้”ซัด”จาตุรนต์”แผ่นเสียงตกร่อง อย่าเป็นพวกอีแอบ ยุให้ท้ายชุมนุมไล่นายกฯ

“แรมโบ้”ซัด”จาตุรนต์”แผ่นเสียงตกร่อง อย่าเป็นพวกอีแอบ ยุให้ท้ายชุมนุมไล่นายกฯ ยันนายกฯมาจากการเลือกตั้งตามรธน.ดีกว่า มีประชาธิปไตยแบบโกงกินบ้านโกงกินเมือง

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2563 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์กรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ได้วิจารณ์คดีนายบอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดงไปจนถึงการชุมนุมของนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว และกล่าวหาว่านายกฯไปคุกคามเด็ก รวมถึงให้คืนประชาธิปไตยให้ประเทศว่า นายจาตุรนต์ เป็นผู้ใหญ่ ผู้มีประสพการณ์ทางการเมือง แต่ทำไมจึงชอบทำเป็นแผ่นเสียงตกร่อง หรือกลัวโลกจะลืมตนเองจึงพยายามออกสื่อโจมตีรัฐบาล

นายสุภรณ์ฯได้กล่าวชี้แจงว่า ประการแรก เรื่องคดีนายบอส อยู่วิทยา นายกฯพอทราบเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นก็ไม่สบายใจอย่างยิ่งและให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักอัยการสูงสุดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน15 วัน ตนไม่เคยคิดว่านักการเมืองที่ยิ่งใหญ่ในอดีตอย่างนายจาตุรนต์จะเกาะกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเขาด้วยแทนที่จะช่วยกันหาแนวทางออกว่าความผิดพลาดมาจากขั้นตอนกระบวนการใดกับมาโยนใส่นายกฯและรัฐบาล ส่วนเรื่องนิสิต นศ.ออกมาชุมนุม ก็ไม่เห็นมีใครไปห้ามหรือไปคุกคามสิทธิแต่อย่างใด และวันนี้แม้รัฐบาลจะต่อพรก.ฉุกเฉินออกไปอีกหนึ่งเดือนเพื่อใช้ในการควบคลุมไวรัสโควิดที่ยังต้องเฝ้าระวังการแพร่เชื้อและความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเข้มข้น ไม่ได้ใช้พรบ.ฉุกเฉินเพื่อห้ามการชุมนุม แต่การชุมนุมต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายบ้านเมืองและอย่าก้าวล่วงสถาบันฯ ดังนั้นจึงขัดแย้งกับสิ่งที่นายจาตุรนต์กล่าวหา ว่าไปคุกคามประชาชน ทั้งที่รัฐบาลไม่ได้คุกคามอะไรเลย มีแต่ประชาชนส่วนใหญ่กำลังถูกคุกคามจากคนบางกลุ่มที่ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์

ประการที่สองให้นายกฯยุบสภาคืนประชาธิปไตยให้ประเทศนั้น วันนี้ นายจาตุรนต์ก็เห็นอยู่ว่า ประเทศปกครองโดยประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐบาลก็บริหารบ้านเมืองได้อย่างปกติมีเสถียรภาพ สภาฯยังเปิดประชุมได้อย่างปกติ จะมีเหตุอะไรที่จะต้องยุบสภาฯให้มีการตั้งใหม่เอาภาระไปให้ประชาชนเดือดร้อน และขณะนี้ก็พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆ ก็ลงพื้นที่หาเสียงเตรียมส่งคนลงสมัครในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นอย่างคึกคักภายในไม่ช้านี้ นี่คือบรรยากาศของประชาธิปไตย เป็นการสร้างประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมในการปกครอง ขณะที่การเมืองระดับชาติ ก็มีการเลือกตั้งซ่อมที่จ.สมุทรปราการ นี่ก็เป็นประชาธิปไตยที่กำลังจะมีการเลือกตั้งของประชาชนที่กำลังจะเกิดขึ้น มิใช่เผด็จการอะไรเลย
“ผมอยากถามว่า นายจาตุรนต์ เอาอะไรมาคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเผด็จการ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มาตามรัฐธรรมนูญและรัฐธรรมนูญปี60 ก็มาจากประชาพิจารณ์ฉันทานุมัติของประชาชนส่วนใหญ่ และก็จัดให้มีเลือกตั้งใหญ่ทั้งประเทศ เลือกตั้งเสร็จก็ให้สภาฯเป็นตัวแทนประชาชนเลือกนายกฯ ต้องแข่งกับตัวแทนของพรรคการเมืองอื่นมา ไม่ใช่มาคนเดียวแบบไม่มีคู่แข่ง ก็เป็นขั้นตอนตาม รธน.ในระบอบประชาธิปไตย

นายสุภรณ์ กล่าวว่า วันนี้แม้นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว แต่เมื่อมีคนเรียกร้องว่า รัฐธรรมนูญ ยังมีข้อบกพร่องต้องแก้ไข สส.ฝ่ายรัฐบาลและสส.ฝ่ายค้านก็ได้ร่วมกันผ่านญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาศึกษาแนวทางการแก้ไขแล้ว หากนายจาตุรนต์และนักศึกษาบางคน มีอะไรอยากจะเสนอแก้ไขประเด็นไหนก็ให้เสนอผ่าน กมธ.คณะนี้ได้ นี่แหละคือประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ กำลังดำเนินการ ขอให้นายจาตุรนต์ หยุดกล่าวหาแบบเลื่อนลอยไร้ข้อเท็จจริงเสียที ควรทำตัวเป็นตัวอย่างแก่นิสิตนักศึกษา ว่าระบบรัฐสภาเป็นช่องทางให้เดิน มิใช่การเคลื่อนไหวบนท้องถนนที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหายเดือดร้อนส่งผลถึงประชาชนที่ทำมาหากินเพิ่มขึ้นไปอีก ทุกอย่างต้องมีกติกาไม่ใช่ทำตัวยุยงปลุกปั่นให้มีการเคลื่อนไหวจนทำให้วุ่นวายอีกเพียงหวังตนเองจะได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีหรือมีอำนาจการเมืองเหมือนในอดีตใช่ไหม เพราะตอนนี้พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบนายจาตุรนต์เลยว่างมากไปหรือเปล่า พอเสียทีเถอะกับประชาธิปไตยตามโมเดลของนายจาตุรนต์ที่เปิดโอกาสให้คนแค่บางกลุ่มไม่กี่คนเข้ามามีอำนาจเพื่อโกงกินบ้านโกงกินเมือง ซึ่งนายจาตุรนต์ก็รู้ดีที่ผมพูดแปลว่าอะไร ในความหมาย ประชาธิปไตยแบบโกงกินบ้านโกงกินเมือง จนประเทศชาติเสียหายย่อยยับเหมือนที่ผ่านมา คงไม่ต้องให้คนอย่าง”แรมโบ้”อธิบายมากกว่านี้นะครับ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม