“บิ๊กลือ” ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดซุ้มประตูป้อมปราการสนามรบโบราณ ค่ายนักรบนาวิกโยธิน
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.63 พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วย นาวาเอกหญิง อุบลวรรณ รุดดิษฐ์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเปิดแพรป้ายซุ้มประตูทางเข้าค่ายกรมหลวงชุมพร หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี คณะทำงานระดับ 5 เสือของกองทัพเรือ ผู้บัญชาการหน่วยกำลังรบ และกำลังรบ เข้าร่วมในพิธีอย่างสมเกียรติ
พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ผบ.นย.) กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดสร้างซุ้มประตูใหม่ สืบเนื่องซุ้มประตูเดิม กีดขวางโครงการขยายถนนสุขุมวิท ตามแผนพัฒนา โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และมีอายุการใช้งานมานานถึง 31 ปี ทำให้ต้องรื้อถอนซุ้มประตูเดิมออก เส้นทางขยายถนน ผู้บัญชาการทหารเรือ จึงมีดำริให้จัดสร้างขึ้นใหม่ โดยให้มีอัตลักษณ์ของความเป็นทหารนาวิกโยธิน กรมช่างโยธาทหารเรือ จึงได้ออกแบบให้มีลักษณะคล้ายป้อมปราการในสนามรบสมัยโบราณ มีขนาดกว้าง 33 เมตร หนา 6 เมตร สูง 18.6 เมตร นอกจากนี้ ซุ้มประตูยังได้ประดับเครื่องหมายความสามารถพิเศษ หลักสูตรการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจม (รีคอน) พร้อมคำขวัญหน่วยที่ว่า “กาย ใจ ชีวิต มอบเป็นราชพลี” “เมื่อรบ ต้องชนะ” และ “นำดี ตามดี” ในส่วนด้านบนติดตั้งกลอง 3 ใบ ได้แก่ กลองย่ำพระสุริย์ศรี ที่ใช้ตีบอกเวลา กลองอัคคีพินาศ ที่ใช้ตีเพื่อแจ้งเหตุไฟไหม้ และกลองพิฆาตไพรี ที่ใช้ตีเมื่อเกิดศึกสงคราม ล้วนเป็นความหมายป้องกันภัยร้ายต่าง ๆ ไม่ให้กล้ำกรายมาสู่ กำลังพลและผู้พักอาศัยในค่ายกรมหลวงชุมพรแห่งนี้
ซึ่งนับเป็นปราการด่านแรก เมื่อเข้าสู่พื้นที่ค่ายกรมหลวงชุมพร จะประจักษ์ถึงความเข้มแข็ง ความแข็งแกร่ง และสื่อถึงการปฏิบัติภารกิจของทหารนาวิกโยธิน ที่ได้รับใช้ผืนแผ่นดินไทยอย่างเสียสละมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2367 รวมระยะเวลายาวนานถึง 196 ปี และจะยังคงรักษาอธิปไตยความเป็นเอกราชชาติไทยให้มั่นคงสืบไป
ณัฐภูมินทร์ ปานรักษ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี