ตำรวจโรงพักบ้านแปลง… ตื่นแล้ว… เปิดยุทธการทางข้อมูลข่าวสาร
……..หลังจากที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้อบกพร่อง ช่องว่างที่ถูกเปิดไว้ให้เป็นช่องแสวงประโยชน์ซึ่งกันและกัน การรับรู้ การมีส่วนร่วมยังมีกลไกที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน การจับกุมผู้กระทำความผิด จับกุมแรงงานด่างด้าว โดยไม่มีการบันทึกการจับกุมก่อนที่จะนำส่งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ลงบันทึกประจำวัน ไม่มีเจ้าทุกข์ ไม่มีข้อกล่าวหา ไม่มีพฤติกรรมของการกระทำความผิด ไม่มีผู้ควบคุม หรือจับกุม พนักงานสอบสวนไม่สามารถรับคดี และดำเนินการตามกฎหมายได้ จึงก่อให้เกิด”ศาลเตี้ย” หรือใช้วิชามวย ตีเข่า เขย่าศอก พิพากษากันเองตามกำลังทรัพย์ เรื่องนี้ถูกปล่อยปะละเลยกันมานาน โดยไม่มีผู้สงสัย ตรวจสอบ ปล่อยให้ ”เหลือบ” แฝงตัวอยู่ในเครื่องแบบ เพียงไม่กี่คน “ปลาเน่าไม่กี่ตัว เหม็นทั้งบ่อ” ทำให้คนในเครื่องแบบเลือดดีอับอาย จะไม่ทนดูอีกต่อไป
……กระแสข่าวที่นำเสนอ มีผู้เห็นชอบ 99.8 เปอร์เซ็นต์ ผู้ต่อต้านเพียง .2 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะคนในเครื่องแบบ ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำต่าง ๆ ของพวกเดียวกัน “ฝนตก ดินไม่ฉ่ำ น้ำไม่ชุ่ม”ปัญหาก็ตามมา คนที่ทำผิดกฎหมายอวดรวย มีเงินเก็บหลายล้านบาท ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แถมภรรยาโพสเฟซบุ๊ค อวดร่ำรวย สามีซื้อทอง ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน เงินเดือนข้าราชการ ได้เพียงหล่อเลี้ยงชีวิต ครอบครัว ให้รอดก็ถือว่าดี ถ้าไม่มีธุรกิจส่วนตัว ไม่ทำสิ่งผิดกฎหมาย หรือธุรกิจสีเทา จะเอาเงินมาจากไหนกันมากมายขนาดนี้ นี่คือพฤติกรรม เชิงประจักษ์ด้วยพยาน หลักฐาน ก่อให้เกิดความแตกต่าง แตกแยก เหลื่อมล้ำ ในหน่วยงานราชการ จนขณะนี้ โรงพักบ้านแปลง ถูกจัดลำดับแบบลับ ๆ ว่าเป็นโรงพัก เกรด A ใครก็ปรารถนาจะมาประจำที่นี่
……โรงพักบ้านแปลงตื่นแล้ว…ทีม IO หรือ “Information Operation” ได้เปิดยุทธการ ทางข้อมูลข่าวสาร ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง ในสื่อช่องทางต่าง ๆ จากกรณีมีภาพสัมภาระของแรงงานต่างด้าว วางกองอยู่ที่โรงจอดรถ ใกล้กับเมรุ วัดบ้านแปลง โดยระบุแรงงานเหล่านี้ถูกทหารพราน นาวิกโยธิน ควบคุมนำมาส่งไว้ สาเหตุที่ไม่นำเข้าห้องควบคุม เพราะว่าห้องควบคุมไม่เพียงพอ แออัด เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ทุกวันจะรวบรวมแรงงานผลักดันออกทางช่องทางด่านสวนส้ม ในเวลา ประมาณ 16.00 น. เรายอมรับในแนวทางการปฏิบัติ แต่ยังมีข้อ”ครหา”ที่ยังไม่หลุดจากวังวนของขบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะ IO ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ หรือยุทธการทางข้อมูลข่าวสารเท่านั้น แต่ IO ถูกนำมาใช้โดยมีเป้าประสงค์เพื่อ สร้างอิทธิพลในการตัดสินใจของฝ่ายตรงข้าม โดยการควบคุมข้อมูลข่าวสารที่ศัตรูได้รับ รวมทั้งการหว่านพืชหวังผลการข่าว ปลุกกระแสมวลชน ยึดครองอำนาจและประโยชน์ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องใหม่
……วังวน ยังไม่หลุดพ้น คำครหา ในสายตาของข้าราชการ ประชาชน สื่อมวลชน ที่ติดตามการทำงานที่ยังไม่เคลียร์ มีการพัฒนารูปแบบใหม่สำหรับแรงงานที่ต้องการกลับประเทศกัมพูชาโดยก่อนหน้านี้ได้มีคนไทยขนแรงงานแล้วถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารพรานจับกุม ส่งตัวมาดำเนินคดี แต่ถูกประณามว่าไอ้โง่ ทำอย่างไรให้ทหารจับได้ ต่อไปนี้ขนแรงงานมาส่งไว้นอกเขตความรับผิดชอบทหารพราน แล้วโทรมาบอก พี่ น.กับพี่ ช.ว่าไว้จุดไหน จะเอารถตำรวจไปรับตัวมาเอง คนที่เห็นก็คิดว่าถูกตำรวจจับมา แต่จะไม่เอาเข้าห้องขังไม่ต้องถูกดำเนินคดีด้วย และจะนำตัวผลักดันส่งออกเอง แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นรายหัวในการนำส่งให้ “นี่คือคำบอกเล่าของนายหน้ารับแรงงาน” ปรับเปลี่ยนจากการทำ IO ลักษณะนี้ มาเป็นการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ ที่ผิดวินัย ผิดกฎหมาย ผิดจรรยาบรรณ ไร้มนุษยธรรม จะได้ไม่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง
……เรื่องนี้จะให้กระจ่างแจ้ง ตรงตามข้อเท็จจริง จึงต้องขอให้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน ช่วยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ทุกชุดควบคุม และกองร้อยต่าง ๆ เข้มงวดในเรื่องเอกสาร บันทึกการจับกุม และจำนวนแรงงานต่างด้าวที่นำส่งให้ สภ.บ้านแปลง ดำเนินการผลักดันออกทางด่านสวนส้ม ว่าในแต่ละวันมีจำนวนเท่าใด โดยให้เจ้าหน้าที่ด่านสวนส้ม บันทึกภาพ และรายงานจำนวนแรงงานที่ผลักดันออก เพราะขณะนี้ทราบว่า บางวันทหารจับกุมได้ 3 คน บางวัน 6 คน แต่ทราบว่ารถตำรวจที่ขนแรงงานออกไปส่งผลักดันมีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว บางวันต้องมีรถขนสัมภาระเสริมอีก 1 คัน เมื่อนำหลักฐานการนำส่งมายืนยันกัน ก็จะทราบเองว่าใครทำอะไร ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ บันทึกจึงมีความสำคัญ ทั้งฝ่ายทหาร และตำรวจ
……ล่าสุดวันนี้ (20 ส.ค.63)ฝ่ายข่าวความมั่นคงในพื้นที่ แจ้งความเคลื่อนไหว สภ.บ้านแปลง ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่าได้มีการนำแรงงานต่างด้าว นับสิบคนเข้าไปควบคุมไว้ในห้องควบคุม มีสัมภาระวางอยู่ด้านนอกเช่นเคย ซึ่งวันนี้มีการติดต่อผ่านทาง ดาบ ช. และมีการแบ่งพื้นที่ทำงาน ต.เทพนิมิต ติดต่อ ดาบ ช ต.หนองตาคง ติดต่อ หมวด ย. และหมวด ศ. ที่ยังมีความขัดแย้งกรณีที่ทางด้าน พ.ต.ท.มนัส วงศ์สีใส รองผู้กำกับฝ่ายปราบปราม (รอง ผกก. ป)สภ.บ้านแปลง ออกมาทำ IO ชี้แจง ว่าไม่สามารถนำเข้าห้องควบคุมได้เพราะคับแคบ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ท่านช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น….
มังกร บูรพา รายงาน