แรงงานกัมพูชาล้นเมืองจันทบุรี ตำรวจ ทหาร นำพาออกด่านชายแดนสวนส้ม
สังคมสับสน…ชาวสวน ล้งลำใยขาดแรงงานนับหมื่นคน ตรงกันข้าม ทหารพราน โป่งน้ำร้อน จันทบุรี จับแรงงานหลบหนีเข้าเมืองได้เกือบทุกวัน ส่วนตำรวจโรงพักบ้านแปลงโชคดี มีนายหน้ารับแรงงานกัมพูชามาส่งหลังบ้าน ยัดเข้าห้องขัง ข้ามขั้นตอนกฎหมาย นำพาออกด่านทหารพราน บ้านสวนส้ม ทุกวัน
………ข้อมูลจากข้าราชการระดับสูง ฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่าขณะนี้จังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะเกษตรกร ปลูกลำไย รวมถึง ล้งลำไยเกือบ 100 แห่ง กำลังมีปัญหาใหญ่เรื่องขาดแคลนแรงงานนับหมื่นคน เพียงรอการอนุมัติจากรัฐบาลให้สามารถนำแรงงานจาก ประเทศกัมพูชา เข้ามาอย่างถูกกฎหมาย แต่อีกด้านที่ต้องตรวจสอบ และจับตา มองอย่างใกล้ชิด ก็คือการจับกุมแรงงานขาเข้า และแรงงานขาออกกลับประเทศตัวเอง ในแต่ละวันจะพบว่าทหารพรานนาวิกโยธิน ได้มีการจับกุมเกือบทุกวัน แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปที่ สภ.บ้านแปลง ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน อีกส่วนหนึ่งก็มีแรงงานที่ต้องการกลับออกนอกประเทศไทยจำนวนมาก มีนายหน้ารับตัว พร้อมสัมภาระมาส่งไว้ที่ข้าง สภ.บ้านแปลง เป็นประจำทุกวัน
……..ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง บอกว่าขั้นตอนการปฏิบัติ การจับกุมแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ จับกุมมาจะต้องลงบันทึกการจับกุม ลงบันทึกประจำวัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี นำตัวขึ้นสู่ศาลพิจารณาคดี จะมีโทษปรับ ถ้าไม่มีเงินค่าปรับก็จะถูกคลุมขังไว้ก่อน เมื่อเสร็จสิ้นก็จะแจ้งให้ตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองในพื้นที่รับผิดชอบมารับตัวไป กักขัง เพื่อรอการประสานกับสถานทูตของประเทศนั้น ๆ ถ้ามีการเปิดให้มีการผลักดันกลับก็จะสามารถดำเนินการได้ แต่ถ้ามีการดำเนินการด้วยวิธีอื่น ๆ ในเบื้องต้นให้ถือว่าผิดขั้นตอนของกฎหมาย ข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้ มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ด่านผ่อนปรนการค้า ด่านถาวร แนวชายแดนของประเทศ รัฐบาลสั่งปิดทั้งหมด ห้ามคนเข้า-ออก
…….จากกรณีที่ทหารพราน ร้อย 524 ชุดควบคุม 2 ได้จับกุม ส.ต.ต.พงศ์พันธ์ อินทร์คงรอด ตำรวจจราจรทางด่วนพิเศษ ใช้รถยนต์เก๋ง ป้ายแดงมารับแรงงานต่างด้าว ที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี กลางดึกของวันที่ 11 ส.ค.63 แล้วได้ปล่อยตัวให้ไปนอนโรงแรม รุ่งสายของอีกวันกลับมารายงานตัว แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัว สุดท้ายได้ปล่อยตัวไปทั้งหมดโดยไม่มีการลงบันทึกจับกุม บันทึกประจำวัน พนักงานสอบสวน จึงไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด ทำให้รู้ว่าขั้นตอนการปฏิบัติช่องว่าง ไม่รัดกุม ไม่มีการติดตาม ตรวจสอบ ก่อให้เกิดความเสียหายของทางราชการ ไม่เพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่เป็นปัญหา ทหารพราน จับกุมแรงงานต่างด้าวเกือบทุกวัน ก็ยังปฏิบัติเช่นเดิม เรียกตำรวจมารับตัว ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแจ้งให้เจ้านายทราบว่าได้มีผลงานการจับกุม
…….ขณะนี้แต่ละวัน จะมีรถหรู ๆ นำพาแรงงานต่างด้าว เด็ก พร้อมสัมภาระมาส่งไว้ที่บริเวณ สภ.บ้านแปลง อ.โป่งน้ำร้อน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะปล่อยให้เดินเพ่นพ่านอยู่บริเวณโรงพัก เพื่อรอรถตำรวจรับไปส่งออกทางด้านสวนส้ม ช่วงเวลา 16.00 น.ของทุกวัน บางวันหลายสิบคน โดยไม่มีการนำเข้าห้องคุมขัง
ทางด้าน พ.ต.ท.มนัส วงศ์สีใส รอง ผกก.ป. สภ.บ้านแปลง ได้ออกมาชี้แจ้งว่าสาเหตุที่ไม่นำเข้าห้องคุมขัง เพราะห้องคุมขังคับแคบ และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 แต่หลายวันที่ผ่านมาได้นำแรงงานต่างด้าว ที่ทหารพรานควบคุมมา และที่นายหน้านำมาส่งให้จำนวนมาก จับยัดเข้าห้องคุมขังหมดโดยไม่หวั่นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด เพียงเพื่อหลบหลีกสายตาประชาชนที่จ้องมอง สุดท้ายก็ไม่มีการบันทึกจับกุม ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และส่งศาล เช่นเคย
…….ครั้งนี้มีความกระจ่าง และชัดเจนมากที่สุด เพราะมีภาพมายืนยัน ขั้นตอนปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ก่อนเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวแรงงานออกมาจากห้องคุมขัง ยืนแถวกันที่โรงพัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง มาร่วมถ่ายภาพ และตรวจสอบจำนวนที่นำพาออกชายแดนด่านสวนส้ม ไม่ถึง 1 ชม. ก็จะมีรถตำรวจ และรถกระบะ สีบอร์น ไม่ติดป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลัง
บรรทุกแรงงาน และเด็ก ๆ พร้อมสัมภาระไปถึงด่านสวนส้ม เช็คจำนวน พร้อมบอกวิธีการปฏิบัติ โดยให้เดินย้อนมาเข้าด้านหลังที่ทำการด่าน แล้วออกด้านข้าง ทั้งที่มีช่องทางให้ผ่านได้ (เพื่อหลบกล้องวงจรปิด) เบื้องต้น เรื่องการนำพาแรงงานออกทางด้านสวนส้มนั้น ยังมิใช่การ”ผลักดัน”ตามขั้นตอนของกฎหมาย หรืออาจเป็นนโยบายของใครนั้น จะต้องหาความจริงกันต่อไป
“คำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย ถ้าผู้ใดรับปฏิบัติ ถือว่ามีความผิดร่วมกัน”
มังกร บูรพา