“ทำเนียบขาว” ปิดพื้นที่ ห้ามคนเข้า-ออก เหตุประท้วงชายผิวสี
“ทำเนียบขาว” ของสหรัฐๆ ดำเนินการปิดพื้นที่ห้ามคนเข้า-ออกโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังเหตุประท้วงกรณีชายผิวดำ “จอร์จ ฟลอยด์” (George Floyd) เสียชีวิตขณะถูกตำรวจจับกุมในเมืองมินนิแอโพลิสรุก คืบเข้าประชิดเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ค.) ที่ผ่านมา
คลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์เผยภาพกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันที่สวนสาธารณะลาฟาแยต ด้านนอกทำเนียบขาว พร้อมชูข้อความ “ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีวันสงบสุข” ระหว่างการประท้วง ซึ่งแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วสหรัฐฯ และ
ก้าวเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่าหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ฉีดพ่นสเปรย์บนผนังอาคารฟรีดแมนส์ แบงก์ บิวติง (Freedman’sBank Building) และมีผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งเข้าปะทะกับกองกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (SecretService) ด้วย
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าประตูห้องแถลงข่าวประจำทำเนียบขาวถูกปิดล็อก ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาฯ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเดินทางออกจากทำเนียบขาว และทวีตว่า “หน่วยอารักขาฯ กำลังทำงานร่วมกับหน่วยบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ”
ทั้งนี้ จอร์จ ฟลอยด์วัย 46 ปี เสียชีวิตเมื่อเย็นวันจันทร์ (25 พ.ค.) หลังเดเร็ก ชอวิน ตำรวจผิวขาวใช้หัวเขากดลำคอของ ฟลอยด์ที่คร่ำครวญว่า ” ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก” โดยซอวิน ถูกจับกุม ด้วยข้อหาฆาตกรรมโดยมีได้เจตนาในวันศุกร์(29 พ.ค.)
ด้านเจคอบ เฟรย์ (Jacob Frey) นายกเทศมนตรีเมืองมินนิแอโพลิส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐมินนิโซตา บังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิวช่วงกลางคืนตั้งแต่วันศุกร์ (29 พ.ค) เนื่องจากเกิดเหตุประท้วงที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน แล้ว
สื่อท้องถิ่นเสริมว่าเหตุประท้วงที่มีตันตอจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ยังคงปะทุคุกรุ่นในเมืองมินนี้แอโพลิส รวมถึงหลายเมืองอื่นๆ โดยคาดว่ากระแสเรียกร้องความยุติธรรมนี้จะคืบคลานไปทั่วสหรัฐฯ ตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ขอบคุณ ซินหัวไทย