โดน2 เด้ง!! อธิบดีธัญญา สั่งหน่วยฉก.พญาเสือ ลุยกวาดล้างร้านขายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ผิดกฎหมาย แถมโดนพื้นที่อยู่รุกป่าสงวนฯ

โดน2 เด้ง!! อธิบดีธัญญา สั่งหน่วยฉก.พญาเสือ ลุยกวาดล้างร้านขายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ผิดกฎหมาย แถมโดนพื้นที่อยู่รุกป่าสงวนฯ

โดน2 เด้ง!! อธิบดีธัญญา สั่งหน่วยฉก.พญาเสือ ลุยกวาดล้างร้านขายเฟอร์นิเจอร์จากไม้ผิดกฎหมาย รวบป้าวัย62 พร้อมของกลางเพียบ แถมโดนเพิ่มอีกเด้ง พื้นที่อยู่รุกป่าสงวนฯ

วันที่ 13 ต.ค.2563 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หน.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของท่าน.​ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ได้มอบหมายให้ ​ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดี อส. สั่งการให้ หน่วยเฉพาะกิจ ปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) ดำเนินการเข้าตรวจสอบ สถานที่ซึ่งเปิดกิจการ ค้าสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้

ทั้งนี้นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หน.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ พร้อมกำลังจนท.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ จนท.หน่วยเฉพาะกิจ ปฏิบัติการพิเศษ ป่าไม้เชียงใหม่ จนท.หน่วยป้องกัน และพัฒนาป่าไม้แม่แตง จนท.ทสจ.เชียงใหม่ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.6 (ปางกว้าง) จนท. กก.4 บก.ปทส. จนท.หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สปป.3 (ภาคเหนือ) เข้าตรวจสอบสิ่งประดิษฐ์ ในบ้านเลขที่ 229 หมู่ที่ 9 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

กำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณ บ้านดังกล่าว เป็นโรงเรือนขนาดใหญ่พบสิ่งประดิษฐ์ทำจากไม้มีค่า จำนวนมาก โดยมี นางกิตติอาภา กรณ์ใหม่ อายุ 62 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน โดยนางกิตติอาภา ได้นำเอกสารหนังสือกำกับสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้หรือสิ่งอื่นใด บรรดาที่ทำจากไม้หวงห้าม จำนวน 33 รายการ และ สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ตรงกับเอกสารใดๆ จำนวน 2 รายการไม่พบเอกสารใบอนุญาตให้เปิดกิจการค้าสิ่งประดิษฐ์แต่อย่างใด จึงทำการตรวจยึดสิ่งประดิษฐ์ที่ทำจากไม้ จำนวน 35 รายการ 62 ชิ้น

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัดพื้นที่ บริเวณบ้าน ด้วยเครื่องระบุพิกัดทางดาวเทียม ผลปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง เนื้อที่ 3-1-39 ไร่ การกระทำของนางกิตติอาภาฯ เป็นการกระทำผิด ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 

     1) ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด ค้าหรือมีไว้ครอบครอง เพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” มาตรา 53 ตรี

     2)  ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 54

     3)  ฐาน “ผู้ใดมีไว้ครอบครองซึ่งไม้หวงห้าม อันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยดวงตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมาย” ตามมาตรา 69 และ

     4)  “บรรดาไม้และของป่าอันได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ และสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ และสิ่งอื่นใด บรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้ามที่มีไว้ เนื่องจากการกระทำความผิด ตามมาตรา 53 ตรี ให้ริบเสียทั้งสิ้น” ตามมาตรา 74

     5)  ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้ผู้ใด ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ” ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ได้นำตัวนางกิตติอาภาฯ และของกลาง ส่งสถานีตำรวจภูธรแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวเฉพาะกิจ ThaiTrend

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม