ทำผิดใหญ่แค่ไหนก็จับ..อธิบดีธัญญา ไม่สนอิทธิพล ส่งฉก.พญาเสือลุยตรวจสอบพื้นที่ป่าแหลมสิงห์ ลูกชายอดีตผบก.ภ.จว.แห่งหนึ่งใช้รถแบ็กโฮล์ปรับพื้นที่ รุกป่าสงวนและวนอุทยานฯ
วันที่ 13 ต.ค.2563 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หน.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ได้มอบหมายให้ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดี อส. สั่งการให้ หน่วยเฉพาะกิจ ปฏิบัติการพิเศษ ผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีลูกชายอดีตผบก.ภ.จว.แห่งหนึ่งใช้รถแบ็กโฮล์ บุกรุกแผ้วถางป่า อยู่บริเวณใกล้กับวัดแหลมสิงห์ ห่างจากสำนักงาน ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขากระทิง ประมาณ 600 ม.
ทั้งนี้นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หน.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ พร้อมด้วย จนท.วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ จนท.หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ จนท.สนง.ที่ดินจ.จันทบุรี ส่วนแยกแหลมสิงห์ จนท.อบต.กะไชย จนท.ทหาร มทบ.19 จนท.ปกครอง อ.แหลมสิงห์ จนท. กอ.รมน.จ.จันทบุรี และผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบ พื้นที่บริเวณ ม.1 ต.บางกะไชย อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ตามที่ได้รับการร้องเรียน
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณดังกล่าว พบว่าสภาพพื้นที่ทั่วไป เป็นที่ลาดเชิงเขา สภาพต้นไม้ป่า กิ่งไม้ หักโค่นทั่วพื้นที่ พื้นดินมีร่องรอย การปรับพื้นที่โดยเครื่องจักร เป็นบริเวณกว้าง พื้นที่ข้างเคียงยังมีสภาพเป็นป่าธรรมชาติ เบื้องต้นคณะ จนท. ได้ใช้ GPS Garmin รุ่น GPSMAP 78s จับพิกัดขอบเขตพื้นที่ ที่เปิดโล่งทั้งหมด คำนวณเนื้อที่ได้ประมาณ 4 -1-17 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าเขาแหลมสิงห์ เป็น พื้นที่ป่า ตาม พรบ.ป่าไม้ 2484 และเป็นพื้นที่วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ ตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งอยู่ในเขตวนอุทยานเขาแหลมสิงห์ ประมาณ 0 – 3 – 34 ไร่
โดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดินจังหวัดจันทบุรี ส่วนแยกแหลมสิงห์ แจ้งว่าในวันที่ 15 ตค 63 จะนัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำการรังวัดแนวเขตที่ดิน ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1244/2563 ลว. 13 มีค 63 ตามที่ผู้ครอบครอง ร้องต่อศาลว่า ครอบครองที่ดินตาม ส.ค.1 เนื้อที่จำนวน 9 – 2 – 54 ไร่ ดังนั้น ในระหว่างการรังวัดและระบุตำแหน่งที่ดินไม่แล้วเสร็จ จึงขอให้งดการนำเครื่องจักร เข้ามาดำเนินการใดๆ ในพื้นที่
ต่อมาเจ้าของผู้ครอบครองพื้นที่ แจ้งว่า จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ต่อเฉพาะตามแนว ส.ค.1 ที่ครอบครอง ที่ จนท.ที่ดิน ได้ชี้แนวเบื้องต้นให้ โดยให้เหตุผลว่า จนท.ที่ดิน แจ้งว่า จะได้ไม่เป็นอุปสรรคในการรังวัดพื้นที่ในวันที่ 15 ตค. 63
อย่างไรก็ตาม หน่วยฯ พญาเสือ พิจารณาแล้วเห็นว่า ในการรังวัดที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดินฯ ในวันที่ 15 ตค 63 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ควรส่งช่างรังวัดจากสำนักฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมดำเนินการด้วย
และในการตรวจสอบครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะได้รวบรวมข้อมูลพื้นที่เกิดเหตุ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง นำส่งสำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่ออ่านแปลผลภาพถ่ายเป็นหลักฐาน และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทีมข่าวเฉพาะกิจ ThaiTrend