ตำรวจชุดสืบสวนนากลางรวบสองผัวเมียริรวยทางลัดค้ายาบ้า
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิหาร แสงมุกดา ผกก.สภ.นากลาง พ.ต.ต.สุวิจักขณ์ จันทร์ไทยธชา สว.สส.สภ.นากลาง,ร.ต.อ.สุริยา บุญประคม ,ร.ต.ท.สมสมัย สุนะไตร,ด.ต.พูลทรัพย์ โกสุมา,ส.ต.ท.ยุทธการ ขันธวิไชย,ส.ต.ท.พัฒนายุ อาสนาชัย พร้อมชุดสืบสวนออกหาข่าวจับกุมผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากนั้นได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐวุฒิ หรือเม้า อาจปาสา อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 5 บ้านโนนธาตุพัฒนา ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู และนางสาวนวรัตน์ หรือโม ทัศนิยม อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 297 หมู่ที่ 10 บ้านโคก ตำบลบ้านโคก อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมของกลางยาบ้า 980 เม็ด จับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 5 บ้านโนนธาตุพัฒนา ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 5 บ้านโนนธาตุพัฒนา ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเม้าและนางสาวโม สองสามีภรรยา มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้ใช้แรงงานในเขตพื้นที่ตำบลดงสวรรค์และพื้นที่ใกล้เคียงและมักมีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด และขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้า –ออก ส่งเสียงดังเป็นที่น่ารำคาญแก่ผู้ที่พักอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พอไปถึงพบนายเม้าหรือนายณัฐวุฒิ อาจปาสา และนางสาวโมหรือนางสาวนวรัตน์ ทัศนิยม กำลังนั่งอยู่ที่บ้าน พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายณัฐวุฒิฯและนางสาวนวรัตน์ฯวิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านและปิดล๊อคประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเป็นเวลานานแต่นายณัฐวุฒิฯและนางสาวนวรัตน์ฯก็ไม่ยอมเปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ไปตามตัวนายสุธน กุลสังข์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนธาตุพัฒนา หมู่ที่ 5 ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนากลางฯมาเรียกให้เปิดประตูนายณัฐวุฒิฯและนางสาวนวรัตน์ฯจึงได้เปิดประตูออกมา
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจค้นตัวนายณัฐวุฒิฯและนางสาวนวรัตน์ฯ เบื้องต้นตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง จากนั้นได้ไปตรวจค้นที่บ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เชิญตัวนายสุธน กุลสังข์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนธาตุพัฒนา หมู่ที่ 5 ตำบลดงสวรรค์ อำเภอนากลางฯ มาเป็นพยานในการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน พันรอบด้วยเทปกาวสีดำ จำนวน 5 ถุง 980 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้พัดลมแบบตั้งโต๊ะสีชมพู ที่วางอยู่ที่ห้องโถงภายในบ้านพัก โดยทั้ง 2 คนรับสารภาพว่าของกลางยาบ้าเป็นของตนเองจริง โดยนางสาวนวรัตน์ฯรับว่าได้ซื้อยาบ้ามาจากนายอ้าย ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ชาวอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี รู้จักกันระหว่างติดคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดหนองคาย โดยรับมาจากนายอ้าย 2 ครั้งครั้งแรก 5 ถุง ครั้งที่ 2 จำนวน 5 ถุงในราคาถุงละ 3,000 บาท โดยรับมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่1 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 24.00 น. 5 ถุง เป็นเงินจำนวน 15,000 บาท โดยนายอ้ายนำยาบ้ามาวางไว้บริเวณป่าใกล้ๆบ้านพักและโทรศัพท์แจ้งให้ไปรับ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 ว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นากลาง ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.
ภาพ / ข่าว วรรธนะ ทองดี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.หนองบัวลำภู