แม่พร้อมพี่สาวเผยมีแชทลับหนุ่มพนักงานโรงแรมดังกระบี่ยืนยันไม่ได้ยิงตัวเองตาย-วิงวอนตำรวจนำไปประกอบคดีตามจับฆาตกรเข้าคุก

แม่และพี่สาวเผยมีแชทลับหนุ่มพนักงานโรงแรมดังกระบี่ วิงวอนตำรวจนำไปประกอบคดีตามจับฆาตกรเข้าคุก

แม่และพี่สาวเผยมีแชทลับหนุ่มพนักงานโรงแรมดังกระบี่ วิงวอนตำรวจนำไปประกอบคดีตามจับฆาตกรเข้าคุก

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2563บ้านเลขที่ 771 หมู่ 7 ต.กรุงหยัน บ้านถ้ำเพดาน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช สถานที่ตั้งศพนายวิเชษฐ์ สมหวัง อายุ 34 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ที่ถูกยิงเสียชีวิตปริศนาภายในภายในบ้านเลขที่ 303 หมู่ 4 ต.ไสไทย อ.เมือง กระบี่ เมื่อเวลา02.30น.วันที่ 1 มิ.ย.2563ที่ผ่านมา ทางญาติ ๆ ได้จัดเตรียมนำศพไปฌาปนกิจที่วัดถ้ำเพดาน ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
โดยนางสารี สมหวัง อายุ 70 ปี แม่ของผู้ตายเปิดเผยว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 2 มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมาแม่ได้รับโทรศัพท์จากลูกชายสอบถามว่าแม่เป็นอย่างไรบ้าง ลูกฝันเห็นแม่ร้องให้ หน้าดำคร่ำเครียด คิดว่าแม่ไม่สบาย แม่ตอบว่าแม่ ไม่เป็นอะไร ลูกนอนได้แล้ว หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง พี่สาวคนตายมาเรียกแม่ให้ตื่น พร้อมทั้งแจ้งข่าวร้ายว่าลูกชายยิงตัวเองเสียชีวิต ส่วนเรื่องความเครียดลูกเคยบ่นให้ฟังเรื่องถูกหยุดงานจากภัยโควิด 19 ไม่มีเงินส่งให้แม่ ไม่มีเงินส่งให้ลูกชาย ลูกสาวที่อยู่กับแม่ 2 คน และโรงเรียนกำลังจะเปิดแล้ว แต่ยังไม่มีเงิน ส่วนปัญหาอื่น ๆ ไม่เคยมี ส่วนเมียที่อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นเมียคนที่ 2 ไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนลูกที่อยู่กับย่า2 คน เป็นลูกของเมียแรกที่เลิกกันไปนานแล้ว
“วิงวอนตำรวจช่วยดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาเพราะตนไม่มีเงินวิ่งเต้นในด้านคดี และไม่เชื่อว่าลูกยิงตัวตาย พร้อมทั้งวิงวอนวิญญาณลูกชายช่วยบันดาลให้เจ้าหน้าที่จับคนร้ายที่ฆ่าลูกให้ได้ในเร็ววัน”นางสารี สมหวัง กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า
ในขณะที่นางพัชรี สมหวัง อายุ 42 ปี พี่สาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนไม่เชื่อว่าน้องชายจะยิงตัวเองตาย เพราะโทรมาคุยกันเป็นประจำ พร้อมทั้งเคยบ่นว่า อึดอัด ไม่อยากอยู่ที่ จ.กระบี่ เนื่องจากมีปัญหากับญาติของภรรยาคนปัจจุบันหลายครั้งในเรื่องส่วนตัว ในคืนเกิดเหตุตนไม่เชื่อว่าน้องยิงตัวเองตาย อยากให้ตำรวจตรวจสอบให้ชัดเจนในด้านคดี
“วันนี้เป็นวันสุดท้ายในการไว้อาลัยผู้เสียชีวิต ก่อนนำศพไปเผา ญาติผู้ตายวิงวอนตำรวจเมืองกระบี่ช่วยหาพยานแวดล้อม เช่นกล้องวงจรปิดการเข้าออกของคนในบ้านที่เกิดเหตุในคืนนั้นว่ามีใครเข้าออกกี่คน เนื่องจากยังมีความมั่นใจว่าผู้ตายอาจจะถูกบังคับให้ยิงตัวเอง เนื่องจากหลังจากได้พูดคุยกับภรรยาคนตายพบข้อสงสัยหลายอย่าง จึงเชื่อว่าผู้ตายไม่ได้ฆ่าตัวเอง และยังมีแชทลับก่อนเกิดเหตุที่ผู้ตายคุยกับเพื่อนจึงอยากให้ตำรวจเอาไปเป็นหลักฐานในการสอบสวนด้วย ทางญาติยินดีให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแชทลับดังกล่าว ซึ่งมั่นใจว่าหากตำรวจได้ข้อมูลจากแชทดังกล่าวจะทำให้การสอบสวนสืบสวนคล่าคลายคดีนี้กระจ่างชัดมากขึ้น”


สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา02.30น.วันที่ 1 มิ.ย. 2563 พ.ต.ต.บุญส่ง ล่องวารี สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน หน่วยกู้ภัยร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุคนยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านเลขที่303 หมู่ 4 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พบกับ น.ส.แอนนีต้า สมบูรณ์ อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอตำรวจอยู่หน้าบ้าน จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน บนเตียงนอน พบกองเลือดกองใหญ่ ใกล้กันพบปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ตกอยู่1กระบอก ภายในมีปลอกกระสุนปืนลูกซองค้างอยู่ ทราบว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุตรวจสอบในตู้เก็บของหัวเตียงยังพบกระสุนปืนขนาด.38 อีก 9 นัดกระสุนปืนลูกซอง1นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนเจ็บชื่อนายวิเชษฐ์ สมหวัง อายุ 34 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.อ่าวนาง เป็นสามีของ น.ส.แอนนีต้า ถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณขมับด้านซ้ายทะลุขวา 1 นัด ถูกนำส่ง รพ.กระบี่ไปก่อนหน้าแล้วและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดย น.ส.แอนนีต้าให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนและสามีนอนพูดคุยกันอยู่ในห้องเกิดเหตุ โดยเห็นสามีบ่น ๆ ว่าตาขวากระตุก จะมีเรื่องไม่ดีหรือเปล่า ตนก็พยายามคุยว่าอย่าคิดอะไรมาก ให้นอนพัก แต่สามีก็โทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง พูดคุยธุระส่วนตัวกัน จากนั้นก็ปิดไฟแต่สามีอยากโทรศัพท์คุยกับแม่ ตนก็ต่อสายไปให้คุย ซึ่งตนไม่ได้สนใจว่าคุยอะไรกันและนอนหันหลังให้ กระทั่งช่วงเกิดเหตุตนรู้สึกเหมือนสามีลุกขึ้นนั่งซึ่งเข้าใจว่าอาจจะลุกไปดื่มน้ำหรือเข้าห้องน้ำแต่อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนหันไปดูก็เห็นร่างสามีในเงามืดล้มลงมาบนเตียงพอเปิดไฟดูก็พบว่าสามียิงตัวเองแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มานำตัวส่ง รพ. กระบี่ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบว่ามาจากปัญหาอะไรเพราะปกติสามีจะเป็นคนไม่ค่อยเล่าปัญหาอะไรให้ฟังแต่เป็นคนที่ชอบเล่นปืน ทั้งนี้ตำรวจจะเชิญตัวภรรยาผู้ตายและญาติๆรวมถึงคนใกล้ชิดมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งโดยเบื้องต้นคาดว่าอาจจะมีความเครียดในเรื่องของรายได้เนื่องจากเจ้าตัวไม่ได้ทำงานมานานร่วม2เดือนแล้วเพราะโรงแรมที่ทำงานอยู่ปิดให้บริการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด.



ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าว จ. นครศรีธรรมราช

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม