ช่วยสองย่าหลาน!!ส.ส.เมืองคอนจับมือสื่อมวลชนรุดเยี่ยมหาทางเยียวยาช่วยเหลือสองย่าหลานยากจนแร้นแค้น-รอผู้ใจบุญยื่นมือช่วยซ่อมหรือสร้างบ้านใหม่

ช่วยสองย่าหลาน!!ส.ส.เมืองคอนจับมือสื่อมวลชนรุดเยี่ยมหาทางเยียวยาช่วยเหลือสองย่าหลานยากจนแร้นแค้น-รอผู้ใจบุญยื่นมือช่วยซ่อมหรือสร้างบ้านใหม่
(8 มิ.ย.) รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1 จ.นครศรีธรรมราชพรรคพลังประชารัฐพร้อมด้วยนายไพฑูรย์ อินทศิลา ปรานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช เดินทางไปเยี่ยมและมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินสดจำนวนหนึ่งให้ครอบครัวของ น.ส.สมพิศ หรือ“ป้าแมว” กระฉ่อนวงค์ อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านและ ด.ญ. ลภัส ทองปาน หรือ “น้องชมพู่” อายุ 8 ปี สองย่าหลาน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 5/12 ชุนมะขามชุม ถนนมะขามชุม ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือครอบครัวย่าหลาน ซึ่งมีฐานะยากจน โดยเช่าที่ดินเดือนละ 500 บาทปลูกกระท่อมเล็ก ๆอยู่อาศัยในปัจจุบันที่พังชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ไม่มีประตู ไม่มีฝาผนัง หลังคาแตกฝนตกรั่วซึมทั่วบ้าน โดย น.ส.สมพิศ หรือ “ป้าแมว” ย่าประกอบอาชีพรับจ้างตัดถั่วงอกรายได้วันละ 50 บาท รับจ้างทั่วไปและได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท และบัตรสวัสดิการคนจนเดือนละ 300 บาท ทั้งสองอยู่กินกันอย่างลำบากแร้นแค้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญยื่นมือเข้ามาช่ายเหลือเพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


น.ส.สมพิศ หรือ “ป้าแมว” เปิดเผยว่า ตนเป็นคนกรุงเทพแต่มาได้สามีในจังหวัดนครศรีธรรมราช และอาศัยอยู่ในชุมชนมะขามชุมมานานหลายสิบปีแล้วมีลูกชาย 2 คน โดยลูกคนโตมีครอบครัวและมีลูกสาว 1 คนคือ ด.ญ.ลภัส หรือน้องชมพู ต่อมาสามีตนเสียชีวิตเมื่อปี 2557 ในขณะที่ลูกสะใภ้แม่ของน้องชมพู่ เสียชีวิตเช่นกัน และลูกชายตนซึ่งเป็นพ่อน้องชมพู่ ไม่มีเมียใหม่ แต่ครอบครัวของน้องชมพู่ มีฐานะยากจนแร้นแค้นเช่นกัน โดยพ่อน้องชมพู่ทำงานรับจ้างตัดหญ้าอยู่ที่ศาลแขวงนครศรีธรรมราช และก็ไป ๆ มาช่วยเหลือตนและน้องชมพูเล็ก ๆ น้อย ตนจึงรับภาระเลี้ยงดูน้องชมพู่ด้วยความยากลำบากมาตลอด ในปัจจุบันน้องชมพู่ หลานสาวเรียนจบชั้น ป. 2 โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่กำลังจะเข้าเรียนชั้น ป.3 ตนอยากจะปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้มั่นคงแข็งแรงกว่ากว่านี้เพราะในปัจจุบันบ้านชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก จนแทบจะอาศัยอยู่ไม่ได้ ไม่มีประตู ไม่มีฝาหนังบ้าน ต้องทนอาศัยอยู่แบบตามมีตามเกิดทุกครั้งที่ตนลุกขึ้นไปรับจ้างตัดถั่วงอกตอนตี 2 ของทุกคืนก็ต้องปลุกน้องชมพูไปนอนข้าง ๆ ด้วยทุกครั้ง เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายหากให้น้องชมพูนอนอยู่บ้านตามลำพัง นอกจากกลัวอันตรายจากวัยรุ่นทั่วไปแล้วยังกลัวสัตว์มีพิษที่สามารถเข้ามาในบ้านได้ตลอดเวลาเช่นกัน


“ตนคงไม่มีปัญหาจะปรับปรุงซ่อมแซมหรือก่อสร้างบ้านใหม่ โดยไม่แน่ใจว่าบ้านหลังนี้จะอาศัยซุกหัวอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ฝนตกแต่ละครั้งตนและหลานก็ต้องหาที่หลบซุกหัวนอน ในช่วงที่รัฐบาลเยี่ยวยาช่วยเหลือช่วงสภานการณ์โควิด-19 คนละ 5,000 บาทตนลงทะเบียนและได้รับการช่วยเหลือด้วย ในเดือนแรกได้ 5,000 บาทก็จ่ายหนี้สินทั้งหมด ในเดือนที่ 2 ก็นำไปซื้อวัสดุอุปกรณ์การทำโรตีและปิ้งลฃูกชิ้นขายในชุมชน ซึ่งลงทุนไป 5,200 บาทและยังต้องขายแบบตั้งโต๊ะไม่ได้ใช้รถเข็นเพราะรถเข็นราคาประมาณ 5,000 บาทตนมีเงินไม่เพียงพอโดยในขณะนี้ขายได้วันละกำไรวันละ 100 บาทเศษ และจะพยายามเก็บเงินซื้อรถเข็นเพื่อจะเข็นไปขายโรตีและลูกชิ้นปิ้งตามพื้นที่ต่าง ๆ จะขายได้มากและมีรายได้เพื่มมากขึ้น ตนจึงอยากจะขอบคุณรัฐบาลที่ให้เงินเยียวยาในครั้งนี้ทำให้มีมีเงินตั้งต้นในการลงทุนประกอบอาชีพขายโรตี”


น.ส.สมพิศ หรือ “ป้าแมว” กล่าวอีกว่า ตนและน้องน้องชมพู่ คงจะอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดไปและเป็นห่วงหลานสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งแม้ตนลำบากยากไร้ แต่พยายามอบรมสั่งสอนให้น้องชมพู่หลานสาวเป็นคนดี ขยันเรียน ตั้งใจเรียนและรู้จักทำมาหากิน ที่ผ่านมาน้องชมพู่ ทั้ง 2 ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก แต่ตนตั้งใจสอนให้หลานเป็นคนดี ไม่สร้างปัญหาสังคม และตั้งใจเรียน รู้จักทำมาหากิน และโชคดีที่น้องชมพู่เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ ทางครูและพ่อแม่ ผู้ปกครองของเพื่อน ๆได้มาเยี่ยมช่วยเหลือตนและน้องชมพู่มาตลอด และทราบว่าทางโรงเรียนก็จะช่วยเหลือเรื่องเงินทุนการศึกษาให้น้องชมพู่ด้วย ในขณะที่พัฒนาสังคมของมนุษย์รวมทั้งมูลนิธิสหไทย มูลนิธิกสิกรไทยก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเช่นกัน นอกจากนี้เพื่อนบ้านก็ใจดีคอยเอื้อเฟื้อแบ่งปันข้าวปลาอาหารให้อยู่เสมอเช่นกัน เรื่องอาหารการกินไม่ค่อยมีปัญหาแต่ปัญหาใหญ่คือสร้างที่อยู่อาศัยหากเป็นไปได้ตนอยากวิงวอนขอความช่วยเหลือไปยังผู้ใจบุญยื่นมือช่วยปรับปรุงซ่อมแซมบ้านหรือสร้างบ้านให้ตนและหลานให้แข็งแรงกว่าที่เป็นอยู่ด้วย


ทางด้าน รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ กล่าวว่า บ้านที่ น.ส.สมพิศ หรือป้าแมวและ ด.ญ. ลภัส หรือ “น้องชมพู่” อาศัยอยู่สภาพเก่าแก่โกโรโกโส ชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ไม่มีฝาผนังและประตูบ้าน ใช้ผ้าปูที่นอนเก่าและแผ่นไวนิลเก่า ๆ ขึงปิดกำบังลมกำบังฝน หลังคามุงกระเบื้องซึ่งแตกและมีรอยรั่วเป็นจุด ๆ เมื่อฝนตกน้ำฝนรั่วทั่วไปบริเวณบ้าน ส่วนข้าวของภายในบ้านมีเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ ไม่กี่ชิ้น ทั้งบ้านมีไฟฟ้าใช้ 1 ดวง หม้อหุงข้าวและกระตกน้ำร้อนเก่า ๆ เสียการไม่ได้ต้องใช้หม้อดินหุงข้าวด้วยไม้ฟืน ในขณะที่กระดานพื้นบ้านก็เก่า ๆ ชำรุดทรุดโทรมแตกหักเป็นช่องจนต้องใช้เศษผ้าหรือไวนิลเก่า ๆ มาวางทับปิดช่องรอยแตกรอยชำรุด กลางห้องมีเตียงเหล็กเก่า ๆ ขนาดกว้าง 1.2 เมตรทราบว่าเป็นของคคนตายที่มอบให้วัดใหญ่ชัยวงคลและเจ้าอาวาสมอบให้สองย่าหลานได้นอน ส่วนด้านหลังบ้านเป็นห้องน้ำห้องส้วมอยู่ในสภาพเอียงกะเท่เร่จะพังแหล่มิพังแหล่ใช้กังกะสีรวมทั้งเสื่อเก่า ๆ กั้น และใช้น้ำบ่อดินหลังบ้าน ซึ่งน้ำท่วมถึง มีสีแดงขุ่น ไม่สะอาดในการอุปโภคบริโภค
“หลังจากนี้ตนพร้อมสมาคมสื่อมวลชนและผั้ใจบุญจะหารือกันว่าจะช่วยเหลือเรื่องการปรับปรุงหรือสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้แข็งแรงมิดชิดกว่านี้ เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีฝาผนัง ไม่มีประตู นอกจากภัยจากมนุษย์แล้วเรื่องวสัตว์ร้ายต่าง ๆก็สามารถเข้ามาได้ทุกช่องทาง ซึ่งจะต้องหารือกันหลาย ๆ ฝ่ายรวมทั้งเจ้าของที่ดินด้วย กห่อนจะสรุปแนวทางและกรอบการช่วยเหลือที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งสำหรับผู้ใจบุญที่จะร่วมสมทบทุนช่วยเหลือครอบครัวสองย่าหลานติดต่อช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช โทร.081-6761299 ,082-3333139 หรือที่ รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ โทร.090-1654153. ส.ส.พปชร.เขต 1 นครศรีธรรมราชกล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์นครศรีธรรมราช
8 มิ.ย.2563

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม