เกิดเรื่องน่าเศร้ากับครอบครัวหนึ่งในรัฐเท็กซัสของสหรัฐเมื่อสมาชิกในครอบครัวรวม 14 คนติดเชื้อโควิด-19 จากการรับประทานอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน และหนึ่งคนเสียชีวิตแล้ว
โทนี กรีน ซึ่งอาศัยในเมืองดัลลัส เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า หลังจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่บังคับใช้หลายเดือนถูกยกเลิก เขาและคู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันนาน 9 ปี
จึงจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำโดยมีพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายมาร่วมงานด้วยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งทั้งหมดไม่ได้สวมหน้ากาก เพราะคิดว่าช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้ว เปิดเศรษฐกิจแล้ว และไม่มีใครป่วยด้วย แต่ในวันรุ่งขึ้น เขาตื่นมาก็รู้สึกไม่สบาย และภายในวันที่ 15 มิ.ย.ภรรยาของเขาและพ่อแม่ก็ป่วยด้วย
นอกจากนี้กรีน เล่าว่า ครอบครัวของภรรยาเดินทางจากเมืองดัลลัสไปที่เมืองออสตินเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.เพื่อไปเยี่ยมหลานคนแรกที่เพิ่งลืมตาดูโลก นอกจากนี้ยังมีสมาชิก
คนอื่นในครอบครัวมาเยี่ยมด้วย และในคืนนั้นราฟาเอล เซฮา พ่อตาของกรีนเริ่มมีอาการป่วย และพ่อแม่ของเด็กแรกเกิดก็เริ่มป่วยและผลตรวจพบว่าติดโควิด-19 แต่ทารกไม่ติด ต่อมาในช่วง 17-23 มิ.ย.แม่ยายของกรีนก็ป่วยด้วย สุดท้ายทั้งกรีนและพ่อตา ที่ติดโควิด-19 ก็เข้าโรงพยาบาลในวันที่ 24 มิ.ย.
กรีน วัย 43 ปี เล่าว่า เขาได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวบไซต์โกฟันด์มี เพื่อระดมเงินบริจาคเป็นค่ารักษาพยาบาลสำหรับพ่อตา ที่ติดโควิด-19 ทำให้ปอดอักเสบและต้องใช้เครื่องหายใจ
นอกจากนี้แม่ของพ่อตาของกรีนก็เข้าโรงพยาบาล และรักษาตัวในห้องที่ติดกับลูกชายและเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 ก.ค.โดยงานศพจัดขึ้นในอีก 2 วันถัดมาและมีญาติไปร่ามงานได้เพียง 10 คน
กรีนยอมรับว่า เขาเสียใจที่จัดงานเลี้ยงคืนนั้น และมีหลายอยางที่เขาจะไม่ทำแบบนั้น ขณะนี้สมาชิก 12 คนจาก 14 คนที่ป่วยหายดีแล้วหรือกำลังรักษาตัวอยู่
ขอบคุณ ภาพ/ข่าว โดย Nation TV