มีพิรุธ “สมชาย” มือชน “จารุชาติ” ตาย เพราะแบบนี้หรือไม่ นายกฯถึงต้องสั่งอายัดศพ
กรณีคดีนาย “บอส ยู่วิทยา” ทายาทตระกูลดัง เครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ขับรถสปอร์ตเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐเสียชีวิต บนถนนสุขุมวิท เมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย. 2555 จนกระทั่งล่าสุด เป็นข่าวดังครึกโครมอีกครั้ง เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” ทำให้เจ้าตัวรอดทุกข้อหา โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 เรื่อง “แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
และในขณะเดียวกัน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีประเด็นใหญ่ที่ทำให้สังคมเคลือบแคลงใจอีกครั้ง เมื่ออยู่ดีดี พยานปากเอกบอสอยู่วิทยา เสียชีวิตกะทันหัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 นายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอก บอส อยู่วิทยา ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานต์เฉี่ยวชน ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนายจารุชาติ มาดทอง เป็นพยานให้กับ บอส อยู่วิทยา ว่าบอสนั้นขับรถด้วยความเร็วแค่ 50-60 กม./ชม. หลังจากการเสียชีวิตของนายจารุชาติ สังคมตั้งคำถาม ถึงการเสียชีวิตปริศนาในครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกมายืนยันว่าการเสียชีวิตของนายจารุชาตินั้นเป็นแค่อุบัติเหตุเท่านั้น โดยภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นรถจักรยานยนต์ของทั้งคู่ ได้ขับขี่มาบริเวณถนนห้วยแก้ว ขาเข้าเมือง จนกระทั่งถึงบริเวณสามแยกฟ้าธานี นายจารุชาติได้พยายามขับแซง แต่ไม่พ้น ทำให้รถจักรยานยนต์ไปเกี่ยวกับคู่กรณี นั้นก็คือนายสมชาย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัว นายสมชาย เพื่อให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีส่วนรู้เห็นในการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง หรือไม่ โดยนายสมชายได้ไปกินดื่มที่ร้านอาหารคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ และได้พบหลักฐานสำคัญเป็นกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลเป็นเจ้าของและพนักงานในร้าน จนทราบความจริงว่านายสมชายให้การไม่ตรงกับความจริง จึงได้เรียกมาสอบเพิ่มในคืนที่ผ่านมา และได้กลับคำให้การโดยอ้างว่าเกิดจากอาการเมาที่ดื่มไปในปริมาณมาก
โดยนายสมชายได้ไปกินดื่มในร้านอาหารดังกล่าวจนกระทั่งร้านใกล้จะปิด เช่นเดียวกันกับนายจารุชาติผู้ตายที่ไปนั่งกินดื่มแต่ไม่ได้ไปด้วยกัน ไม่ได้ร่วมโต๊ะเดียวกัน แต่เป็นจังหวะที่ร้านกำลังจะปิดทั้งสองคนจึงมาเจอกันที่หน้าร้าน
ด้วยอาการเมาทั้งคู่จึงได้พูดคุยกันถูกคอ และชวนกันไปดื่มต่อโดยนายสมชายได้ชวนนายจารุชาติว่าจะพาไปหาคนชื่อน้องแหวนในตัวเมืองเพื่อดื่มเหล้ากันต่อ หลังจากนั้นก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมาในลักษณะที่เมามีการขับเฉี่ยวกันไปมาจนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุผู้ตายพยายามจะแซงแต่เฉี่ยวชนกันจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
แต่ประเด็นที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น หลังเกิดอุบัติเหตุ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวนายสมชายมาสอบปากคำ พบว่านายสมชายหนีออกจากโรงพยาบาล โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล หลังพยาบาลเดินมาแจ้งว่าค่ารักษาพยาบาลอยู่ที่ 2,700 บาท
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หาข้อมูลเกี่ยวกับนายสมชาย ตาวิโน เพิ่มเติม และได้เดินทางไปที่ หอพักอุ้ยมี เลขที่ 30 ม.2 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากข้อมูลการให้ปากคำจากตำรวจบริเวณนี้เป็นที่พักของนายสมชาย ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถาม แต่ไม่พบนายสมชายแต่พบนางขวัญ อายุ 41 ปี ชาวไทใหญ่ มีอาชีพเป็นแม่บ้าน ซึ่งพักอาศัยในหอพักเดียวกัน โดยนางขวัญ ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า นายสมชาย พักอาศัยอยู่ที่นี่จริง คือห้องพักหมายเลข 7
ส่วนตนกับสามีอยู่ห้องพัก ปกติแล้วนายสมชาย เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบพูดคุยทักทายกันเป็นประจำ และเป็นชายโสดอยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว ทำงานอยู่ที่โครงการหลวงในต.แม่เหียะในวันที่เกิดเหตุช่วงเย็นประมาณ 18.00 น.นายสมชาย เข้ามาหาตนเองและสามี พร้อมกับนำสุรามา 1 ขวด บอกว่าฉลองโทรศัพท์ใหม่ พร้อมกับให้ตนเองสมัครเฟซบุ๊คกับไลน์ให้
หลังจากดื่มกินไปจนสุราหมดขวด ประมาณ 3 ทุ่มกว่าก็แยกย้ายกันพักผ่อน หลังจากนั้นไม่นานตนเองได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ของนายสมชายขับออกไปด้านนอก แต่ไม่ทราบว่าไปไหน ตนก็พักผ่อนต่อ จนวันรุ่งขึ้นก็ได้เจอกับนายสมชายแต่จำเวลาไม่ได้นายสมชายมาเล่าให้ตนเองฟังว่า เมื่อคืนขับรถไปประสบอุบัติเหตุมา จนได้รับบาดเจ็บแต่คู่กรณีเสียชีวิต เหมือนเรื่องราวการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง จะมีเงื่อนงำหรือไม่ เมื่อล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการอายัดศพ ของนายจารุชาติ เพื่อนำกลับมาชันสูตรพลิกศพสืบหาการเสียชีวิตเป็นทางการ
หากย้อนกลับไปในวันที่นายจารุชาติ ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตปรากฎว่าโทรศัพท์มือถือของนายจารุชาตินั้นหายไป
จนกระทั่งญาติเดินทางไปรับศพนายจารุชาติ ก็มีคนเอาโทรศัพท์มือถือ กับเสื้อผ้ามาให้แม่ของจารุชาติ ที่เชียงราย
โทรศัพท์มือถือแตกละเอียด แต่ที่น่าสงสัยนั้นก็คือซิมโทรศัพท์ของนายจารุชาติหายไป มีการถอดซิมโทรศัพท์ของนายจารุชาติทิ้ง
และนี้ก็คือการไล่เรียงไทม์ไลน์ทั้งหมด เพื่อเป็นการตั้งคำถามถึงกรณีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทองว่าแท้จริงแล้วการเสียชีวิตในครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่ หรือโดนใครวางยาหรือเปล่า เพราะพอนักข่าวตามหาตัวนายจารุชาติ เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องการเป็นพยานปากเอกในคดีของบอส อยู่วิทยา แต่ไม่นานก็ปรากฎว่า นายจารุชาติกลับมาเสียชีวิตอย่างปริศนาทันที