เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษเปิดเผยว่า ช่วงนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวได้เมตตาปล่อยเด็กกระทำผิดให้กลับไปอยู่กับครอบครัวตามมาตรา 132 ที่กำหนดโดยสรุปได้ว่า กรณีที่ศาลเห็นว่าคดีไม่สมควรมีคำพิพากษา หรือผู้ปกครองทางกฎหมายร้องขอ ศาลอาจมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขตามดุลพินิจของศาลเช่น การให้เข้ามารายงานตัวต่อศาล, เข้ารับการแก้ไขฟื้นฟู, หรือ จัดทำแผนเเก้ไขบำบัดฟื้นฟู โดยมีหลักเกณฑ์ว่า คดีต้องเสร็จการพิจารณาเเล้ว พฤติการณ์ไม่เป็นอันตรายร้ายเเรงต่อสังคมเกินสมควร มีเเนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อายุจำเลยไม่เกิน 24ปี บริบูรณ์โดยไม่ได้ให้อยู่ที่สถานพินิจหรือศูนย์ฝึก พวกเรา กรรมการสงเคราะห์จึงมีหน้าที่เฝ้าติดตามดูแลเด็กหลังปล่อยเพื่อดูว่าเมื่อเด็กกลับไปอยู่กับครอบครัวแล้วมีสิ่งแวดล้อมความเป็นอยู่อย่างไร เพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือให้เด็กให้พ้นจากสิ่งแวดล้อมเดิมที่อาจเป็นสาเหตุให้เด็กกลับไปทำผิดอีก บังเอิญมีคดีของเด็กรายหนึ่งที่ศาลปล่อยตัวกลับบ้านแต่เด็กได้เขียนจดหมายไปหาศาลว่าอยากทำงาน
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ กล่าวต่อว่า ตนจึงขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานพินิจศรีสะเกษมาดูพบว่าเด็กรายนี้มีความเป็นอยู่ที่ยากไร้มาก จึงได้ปรึกษานายชูเกียรติ ทาวุฒิ รักษาการผู้อำนวยการสถานพินิจเด็กและเยาวชนจังหวัดศรีสะเกษ และนายชูเกียรติ ทาวุฒิ ได้มอบให้นางสาวยุณีรัตน์ บุญราช พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติการ ลงพื้นที่เพื่อเดินทางไปเยี่ยมเด็กชายคนนี้ที่ เขตอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้พบว่าฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ยากจนมาก พ่อแม่ไม่มีที่ทำกิน ทั้งที่แต่ก่อนเคยมีไร่นาแต่ได้ขายกินหมดแล้ว ที่บ้านสภาพความเป็นอยู่แร้นแค้นมาก เด็กต้องไปรับจ้างช่วยถางหญ้าหรือหางานทำ แต่ก็ไม่มีงานอะไรที่จะทำให้มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้เพราะนอกจากพ่อแม่แล้วยังมีน้องสาวที่กำลังเรียน และพ่อแม่ก็ไม่มีงานทำ แต่เด็กเป็นคนมีน้ำใจเพราะเมื่อตนพาไปซื้อของเครื่องใช้ที่จำเป็นเด็กก็ไม่ได้รีบฉกฉวยหยิบสิ่งของตามที่อนุญาต มีแต่แม่ของเด็กที่รีบมาขอข้าวสารหนึ่งถุงนอกเหนือจากได้มาม่าและของใช้ที่จำเป็นที่ซื้อให้ แต่เด็กต้องการอยากจะทำงานหาเงินด้วยตัวเองจริงๆ ตนจึงอยากช่วยหางานให้ทำ เป็นงานที่เจ้าของกิจการสามารถให้เด็กอาศัยพักอยู่ได้ด้วยเพราะเด็กไม่มีสมบัติอะไรเลย ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์จะขับไปทำงานแบบไปกลับ จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างที่คิดจะหาเด็กมาช่วยทำงานได้อุปการะเด็กคนนี้ให้มีงานทำ เป็นการให้โอกาสเด็กได้เป็นคนดีของสังคม โดยผู้ที่มีจิตเมตตาสามารถติอต่อสอบถามไปที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดศรีสะเกษ
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
