เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านอานแซะ ต.อานแซะ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 พ.อ. บุญเสริม บุญบำรุง ผบ.ฉก. 1 พ.อ. ภคพล มีทิพย์ ผบ.ฉก.ทพ. 23 ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิทยา มูลน้อยสุ นายอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี และคณะหัวหน้าส่วนราชการ ได้เดินทางผ่านทางจุดผ่านแดนชั่วคราวช่องอานม้า มาที่วัดบ้านอานแซะ เพื่อประกอบพิธีถวายเทียนพรรษา ทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อปฏิสังขรณ์วัดบ้านอานแซะ ได้เงินจำนวน 50,000 บาทเศษ ปลูกต้นไม้จำนวน 100 ต้นประกอบด้วยต้นยางนา ต้นพะยอม และปล่อยพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ปลานิล จำนวน 1,000 ตัวลงในสระน้ำของวัด จากนั้น ได้ประกอบพิธีมอบอุปกรณ์กีฬาให้กับร.ร.ของกัมพูชา จำนวน 3 แห่งคือ ร.ร.บ้านอานแซะ ร.ร.บ้านต็อลเชอกร็อม และ ร.ร.บ้านเชอเตียลกอง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ น.ร.ได้เล่นกีฬามีสุขภาพแข็งแรง โดยมีฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.พาด สุเพ็น รองผู้บังคับการกองพลสนับสนุนที่ 3 พ.อ.ชิน คะนา หน.หน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา – ไทย ประจำช่องอานม้า นายวุฒิ ดารา นายอำเภอจอมกระสาน นำคณะครู นักเรียน และประชาชนชาวกัมพูชาเขต อ.จอมกระสาน จำนวนประมาณ 150 คน มาให้การต้อนรับและร่วมพิธีในครั้งนี้
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีงามในการที่จะจุดประกายของการค้าขายและการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควัด -1 9 ได้คลี่คลายลงแล้ว จะเห็นได้ว่าที่บริเวณจุดผ่อนปรนชั่วคราวช่องอานม้า มีการค้าขายชายแดนคึกคัก มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าของทั้ง 2 ประเทศ โดยทางฝ่ายกัมพูชาได้เข้ามาซื้อสินค้าจำพวกมะพร้าว และไก่สดจำนวนมาก ซึ่งบริเวณนี้ในอนาคตต่อไปจะเชื่อมโยงไปถึงสามเหลี่ยมมรกต จะเป็นผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดีมาก
พระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า อาตมาภาพได้นำคณะมาทำบุญถวายเทียนพรรษาและทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ เนื่องจากว่า ประเทศกัมพูชานับถือพุทธศาสนาเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทย ดังนั้น จึงได้ร่วมกันทำนุบำรุงสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนในการปฏิสังขรณ์ศาสนสถานของวัดบ้านอานแซะ เพื่อให้สามารถใช้ในการประกอบศาสนกิจได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม อาตมาภาพต้องขอเจริญพรขอบคุณ พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 พ.อ. บุญเสริม บุญบำรุง ผบ.ฉก. 1 และ พ.อ. ภคพล มีทิพย์ ผบ.ฉก.ทพ. 23 นายอำเภอกันทรลักษ์และนายอำเภอน้ำยืน และคณะพุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญทุกท่านที่ได้มาร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นับว่าเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ชาติไทย-กัมพูชาให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยใช้มิติทางพระพุทธศาสนา
พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 (ผบ.ฉก.1) กล่าวว่า พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2 ได้นำคณะมาจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายเป็นมิตรสัมพันธ์ที่ดีดังในข้อตกลงประชุม RBC ครั้งที่ 23 ห้วงระหว่างวันที่ 24-26 ก.ค.2565 ณ จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นด้วยมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมที่จะพัฒนาร่วมกัน ซึ่งการดำเนินโครงการในวันนี้ เพื่อสานต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างชายแดนทั้ง 2 ประเทศ โดยมุ่งเน้นในการป้องกันการแก้ไขปัญหาเงื่อนไขชายแดนต่างๆ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และความเท่าเทียมกันของประชาชนตามแนวชายแดน เพื่อพัฒนาชายแดนให้ครอบคลุมในเรื่องเศรษฐกิจการค้าขาย การท่องเที่ยว การสาธารณสุขและวัฒนธรรม ให้มีความมั่นคงถาวรต่อไป.
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ