จากการขยายผลการสืบสวน สอบสวน ของ ตร.สืบสวนภ.จว.ชลบุรี ภายใต้การนำทีมของ ”ผกก.โจ”พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก. ล่าสุดได้ข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมกับหลักฐานสำคัญของขบวนการ สวมสิทธิ์การส่งชิ้นส่วน(ตีนไก่)ไปประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรับซื้อใหญ่ มีมูลค่าหลักพันล้านบาท ตีนไก่ 1 ตู้ มีมูลค่าประมาณกว่า 5 ล้านบาท ทำให้ต่อขณะนี้ ตร.ได้ต่อ จิ๊กซอร์ไปถึงวิธีการปลอมแปลงเอกสารในการส่งออกชิ้นส่วน(ตีนไก่) ได้อย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นมีการปลอมแปลงลายมือชื่อ โดยเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ ที่ปรากฎลายมือชื่อ ในเอกสาร HC ได้มีการลงบันทึกประจำวันแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า ลายมือชื่อที่เซ็นรับรองในเอกสาร ไม่ใช่ของตนแลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามและออกเอกสาร HC ดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ในตารางของสายเรือ กลับมีตู้เข้าไปยังประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้*GACC*ประเทศจีน ได้ดำเนินการตรวจสอบลายมือชื่อของหมอ
จากกรมปศุสัตว์ว่ามีหลุดเข้าไปในประเทศจีนอีกจำนวนเท่าไร เพราะจากหลักฐานและคำให้การในบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำให้เห็นได้ชัดว่ามีการลักลอบ ปลอมแปลงเอกสารราชการซึ่งเป็นเอกสารภายในกรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่คนนี้ไม่ได้ทำงานในห้องHc จึงมีความผิดอาญา โทษปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ไม่ใช่เป็นเรื่องเล็กน้อยในกรมปศุสัตว์ แต่เป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่อาจเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรมปศุสัตว์ นอกจากนี้ยังฝากถึงคณะทำงานของปปช.ด้วย จากหลักฐานที่ตร.มีอยู่เชื่อได้ว่ามีเจ้าหน้าที่หลายระดับร่วมกันกระทำความ เบื้องต้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และอาจยังมีความผิดอื่นๆอีก เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน ทำให้ประเทศไทยขาดความน่าเชื่อถือ แต่ที่น่าสงสัยอีกอย่าง คือสาเหตุ ehc จึงออกได้ ใครเป็นคน ส่งไป การส่ง อีเมล์ ehc ไปประเทศจีนนั้น เมล์ดังกล่าว ไม่ใช่ผู้ประกอบการเป็นคนส่ง แต่ต้องเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในกรมปศุสัตว์เป็นคนส่ง
ซึ่งมีหลักฐานจากทางประเทศจีนว่าเมล์ดังกล่าวส่งมาจากกรมปศุสัตว์ของไทย และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ในช่วงขณะเกิดเหตุใครในกรมปศุสัตว์ที่มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้ใครเป็นผู้ดูแลและตรวจสอบ ความเสียหายเกิดขึ้น ใครต้องรับผิดชอบบ้าง เพราะจากการสืบสวนของ ตร.สืบสวนชลบุรี ตั้งแต่เป็นข่าววันที่16 มีนาคม จนถึงขณะนี้ พอจะทราบว่ามีใครอยู่เบื่้องหลัง อีกทั้งจนท.ปปช ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพราะตอนนี้มีการอ้างว่า ขณะจับตู้ ของยังอยู่ในประเทศไทย แต่อาจลืมไปว่า ข้อหาละเมิดสิทธิ์หรือการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว อีกทั้งเรื่องตู้ที่ได้ทำการส่งเข้าไปยังประเทศจีนแล้ว ความผิดเต็มรูปแบบ และมีการรับสารภาพแล้วว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่กระทำความผิดตามเอกสารที่ปรากฏ ซึ่งมีเลขใบขนสินค้า วันส่งออกเป็นวันที่ 22/05/2023 จำนวน3ตู้ ด่านแหลมฉบังต้องมีคำตอบให้ว่าเอกสารออกได้อย่างไร เพราะตารางสายเรือนั้นสามารถใช้อ้างอิงได้ตามกฏหมาย และบ.ชิ้ปปิ้ง ยังมีอีกบริษัท ชื่อพูนทรัพย์2023 ขณะนี้ ตร.กองสืบสวนชลบุรี ได้มีข้อมูลอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าจะได้ตัวหัวหน้าพร้อม ผู้รวมขบวนการได้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอีกหลายอย่าง ที่ยังไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เนื่องจากจะกระทบต่อการสืบสวนของตร. แต่สามารถเปิดเผยขั้นตอนออกเอกสารการส่งออก A เอกสารที่เกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอน ด่านศุลกากรแหลมฉบัง
-BIL
-ใบขน
-invoice
-packing list
ด่านปศุสัตว์
1.ใบร.9 (ออกโดยด่าน)
เอกสารที่ยื่นขอ ร 9
(1) สพส1(ตัวจริง)
(2) ใบร1/1
(3) ใบ ร3
(4) ใบinvoice
(5) packing list
(6) (ร่าง)ใบขน
(7)หนังสือมอบอำนาจ
2.การเคลื่อนย้าย
(1)ใบเคลื่อนย้าย ร 3 ต้องมีไปกับรถขนส่ง (ออกโดยปศุสัตว์พื้นที่ต้นทาง เช่น ปศุสัตว์อำเภอ)
3.โรงงาน
(1)ได้รับรองเป็นโรงงานส่งออกจากกรมปศุสัตว์ และ ประเทศผู้นำเข้า
(2)เป็นผู้ออก สพส.1, checklist, ใบสอบย้อนกลับ
(3) Form A
ห้องออก หนังสือรับรองสุขอนามัย
(1)เป็นผู้ออก HC (ผปก.พิมพ์ HC ให้เรียบร้อยก่อนยื่นขอHC)
(2) เอกสารจาก รง.ข้อ (2), (3)
(3) ผปก.ยื่นเอกสาร ในข้อ(1), (2) > รับเอกสาร> ตรวจ> ลงนาม> stampตรากรมปศุสัตว์ & รายชื่อผู้ลงนามในCH >สะแกน> ส่งเมล์ ให้ gacc
-ต้องผ่านการตรวจสอบและอนุมัตโดยหมอโรงงาน
-การส่งเอกสาร ข้อ (2), (3) เป็นการจัดส่งเอกสารทาง อีเมล ดังนั้น เอกสารฉบับจริงจะจัดเก็บที่โรงงาน และทำสามารถตรวจสอบ อีเมล ของ สัตวแพทย์ประจำโรงงาน และ ผปก. ที่ส่งเข้าอีเมลของห้อง HC ต้องมีและข้อมูลตรงกัน จะเห็นได้ว่าการส่งออกชิ้นส่วนไก่ แต่ละครั้งจะวุ่นวายมาก เอกสารล็อก ไว้หลายชั้น ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือผู้มีอำนาจสั่งการแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่การลักลอบส่งออกจะกระทำสำเร็จ
ภาพ/ข่าว ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี