นายช่างรังวัดที่ดิน ชี้ บ้านเรือนไทย 2 หลัง ปลูกกลางแอ่งเก็บน้ำสาธารณะ

จากกรณีที่ได้มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนสื่อมวลชน เพื่อจี้ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะ เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ ที่ว่าการอำเภอสัตหีบ และ สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ ดำเนินการตรวจสอบที่ดินบางส่วนที่กำลังยื่นขอให้รับรองสิทธิครอบครองเข้าไปตรวจสอบ และชี้ชัดแนวเขตที่ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนบุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณะ และลำรางสาธารณะในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งต่อมา นายธนพง โคตรมณี นายเทศมนตรีตำบลเขาชีจรรย์ ได้มอบหมายให้ นางนงค์ลักษณ์ จิตรใจกล้า รองนายกฯ นายจิตติณ โรจน์บุนส่งศรี นิติกร และ นายพชร ศรีวิชัย ผอ.กองช่าง ได้พาสื่อมวลลงพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในฐานะตัวแทนของประชาชนเดินทางไปร่วมตรวจสอบ ชี้แนวเขตสถานที่ที่ได้รับการร้องเรียนด้วย

ความคืบหน้าใน(19 กันยายน 2566)ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายประพันธ์ศักดิ์ ขวัญศรี นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทราบว่าในพื้นที่ดังกล่าวนี้ มีปัญหาอยู่ 3 จุด ก็คือ เจ้าของที่ดินถมพื้นที่เกินหลักเขตเดิม แห่งที่ 2 แจ้งครอบครองสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับการรับรองสิทธิ์เพื่อออกโฉนด และแหล่งสุดท้าย พบบ้านเรือนไม้ 2 หลังปลูกสร้างอยู่กลางแอ่งน้ำ ที่ไหลมาตามลำรางธรรมชาติที่เป็นแหล่งต้นน้ำเขตห้ามล่าเขาชีโอน ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ทางสำนักงานที่ดินได้รับทราบเบื้องต้นบ้างแล้ว ซึ่งได้นัดหมายผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตรวจสอบแนวเขตครอบครอง แนวเขตลำรางสาธารณะ ในวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 ที่จะถึงนี้

นายประพันธ์ศักดิ์ ยังได้กล่าวอีกว่า เรื่องที่ประชาชนเกรงว่านายทุนจะเข้ามาบุกรุกที่สาธารณะนั้นยังไม่พบแนวทางที่เป็นไปได้ เพราะพื้นที่แห่งนี้มีผู้ครอบครองมาก่อน บ้านก็มีการปลูกสร้างไว้ก่อนนายทุนจะเข้ามาซื้อต่อ มีเพียง 1 แห่งที่จะต้องตรวจสอบพิสูจน์ทราบว่าผู้แจ้งครอบครองสิทธิ์เป็นใคร มาจากที่ใด และที่ดินแปลงดังกล่าวมีการแจ้งสิทธิ์ทับซ้อนที่ดินที่เป็นลำรางสาธารณะมาก่อนหรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดลงนามรับรองสิทธิให้ออกโฉนดได้ ส่วนบ้านเรือนไม่ 2 หลังนั้น แน่ชัดว่าปลูกสร้างในแอ่งเก็บน้ำสาธารณะชัดเจน ตามภาพถ่ายทางอากาศมีแนวขอบลำรางล้อมรอบถ้าพูดแบบเข้าใจก็คือปลูกบ้านอยู่ในแอ่งเก็บน้ำ จะต้องเป็นหน้าที่ของ เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ และอำเภอสัตหีบ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพื้นที่สาธารณะ จะรื้อหรือเก็บรักษาไว้เพื่อการอนุรักษ์ เพื่อการท่องเที่ยว ก็ต้องมีคำตอบให้กับประชาชนที่เฝ้าติดตามเรื่องนี้จำนวนมาก

ภาพ/ข่าว พัชรพล ปานรักษ์ ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม