ตร.เร่งสอบสวน พบข้อมูลครูขู่ 2 นร.หญิง มารุมโทรมสลับคู่ซ้ำไปมา พยานหลักฐานแน่นชี้โทษสูงถึงจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 พ.ต.ท.ปรีชา ครองยุติ สว.(สอบสวน) สภ.ผึ่งแดด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการทำหน้าที่พนักงานสอบสวนในคดีที่ ยาย ของเยาวชนหญิง ชื่อ เอ (นามสมมุติ) ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษว่าครู 5 คน และศิษย์เก่า 2 คน ของโรงเรียนดงมอนวิทยาคม ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะเป็นการรุมโทรมหลานของตนซึ่งเป็นเด็กนักเรียนอายุ 14 ปี และได้มีการอ้างนางสาวบี อายุ 16 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม. 4 เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ด้วยนั้น
เมื่อมีการสอบปากคำได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. นายวิพจน์ แสนสุข และนายอานุภาพ บรรจงได้นัด ด.ญ.เอ และ น.ส.บี มาพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์ จากนั้นนายวิพจน์ ก็ได้กระทำเรา ด.ญ.เอ และนายอานุภาพ ได้กระทำชำเรา น.ส.บี ในห้องเดียวกัน ระหว่างนั้นนายวิพจน์ และนาอานุภาพ ยังได้มีการสลับคู่กัน โดยนายอานุภาพ ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ และนายวิพจน์ กระทำชำเรานางสาวบี ระหว่างนั้นได้มีนายยุทธนา ภู่ถนนนอก เข้ามาในห้อง นายอานุภาพ ก็ได้ลุกขึ้นและลงด้านล่างของบ้านพัก จากนั้นนายยุทธนา ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ และน.ส.บี สลับกันไปมา หลังจากนั้นนายวิพจน์ ได้กลับขึ้นมาบนห้องและได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ ต่ออีกจนสำเร็จความใคร่
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม เวลาประมาณ 14.30 น. นายวิพจน์ ได้นัด ด.ญ.เอ และ น.ส.พรวดี ไปพบที่บ้านพักครูของนายวิพจน์ อีกเมื่อไปถึงนายวิพจน์ ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ ส่วนน.ส.บี ถูกนายยุทธนา กระทำชำเรา จากนั้นนายวิพจน์ ได้ขอสลับคู่กับนายยุทธนา ซึ่งนายยุทธนาฯ ก็ได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ ส่วนนายวิพจน์ กระทำชำเรา น.ส.บี ต่อมา นายวิพจน์ ขอสลับคู่คืนอีก จนกระทั่งนายวิพจน์ และนายยุทธนา สำเร็จความใคร่
จากข้อเท็จจริงดังกล่าว พนักงานสอบสวนจึงเห็นว่าในส่วนของ น.ส.บี นอกจากจะเป็นพยานในคดี ด.ญ.เอ แล้ว ยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ และต้องแยกเป็นอีกหนึ่งคดีต่างหากจากคดี ด.ญ.เอ จึงได้ให้ น.ส.บี แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายวิพจน์ แสนสุข นายอานุภาพ บรรจง และนายยุทธนา ภู่ถนนนอก ในข้อหาร่วมข่มขืนกระทำชำเราอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยพนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบรัดกุม เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกคนและขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป
กรณีที่ยื่นถอนประกัน ถ้าหากผู้ต้องหามีการข่มขู่หรือคุกคาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเรื่องเสนอต่อศาลเสนอถอนประกันได้ทันที ส่วนข้อหาค้ามนุษย์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานซึ่งในขณะนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ แต่ถ้ามีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทันที ส่วนคดีของนางสาว บี เหยื่อรายที่ 2 ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. ผึ่งแดด ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา ส่วนสำนวนแยกเป็น 2 คดี เนื่องจากนางสาวบี เป็นพยานในคดีน้องอายุ 14 ปี และเป็นผู้เสียหายด้วย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป
ขณะที่ ฐานความผิด ในเรื่องการข่มขืนกระทำชำเราเด็ก กฎหมายอาญา มาตรา 277 ได้กำหนดโทษไว้อย่างรุนแรง โดยมีหลักสำคัญว่า…บุคคลใดมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไม่ว่า”เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000 บาทถึง 400,000 บาท
แต่ถ้าการข่มขืนกระทำชำเราเกิดกับเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามมาตรา 227 วรรคสาม
สำหรับการกระทำความผิดในลักษณะรุมโทรม มาตรา 277 วรรคสี่ วางหลักไว้ว่า…หากการกระทำนั้นเกิดกับเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง หรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกัน และเด็กนั้นไม่ยินยอม หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืน หรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษ ”จำคุกตลอดชีวิต”
และหากการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ เด็กผู้ถูกกระทำได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ผู้กระทำต้องระวางโทษ ”ประหารชีวิต” หรือ “จำคุกตลอดชีวิต”