ยิ่งกว่าหมาข้างถนน!!อนาถชีวิตคนไทยยุค 5 จียิ่งกว่าหมาข้างถนน-ยายแอ๊ด วัย 71 ปีซุกหัวนอนในซอกหน้า ห้องเช่ากลางเมืองคอน
(17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเย็นวานนี้ (16 มิ.ย.)ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเพื่อขอความช่วยเหลือหญิงชราที่มีฐานะยากจน แร้นแค้น ไม่มีที่อยู่อาศัยต้องขอซุกหัวนอนในซอกหน้าห้องเช่าภายในหมู่บ้านการเคหะชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังนับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบในซอน 4 หมู่บ้านการเคหะ ฯ ซึ่งในจุดดังกล่าวมีห้องเช้าอยู่ 2 ห้องเลขที่ 4/474 และ 4/475 ทั้ง 2 ห้องไม่มีคนอยู่ล็อคกุญแจด้านหน้าอย่างแน่นหนา โดยหน้าห้องเช่าเลขที่ 4/575 พบนางสมปรารถนา กลั้นมาลัย หรือ “หรือยายแอ๊ด” อายุ 71 ปีไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน สวมเสื้อคอกระเช้าเก่า ๆ สีดำคาดชมพู นุ่งผ้าพถุงเก่า ๆ ลายใบไม้ ร่างกายรูปผอม หน้าตาซีดเซียว นั่งอยู่หน้าบ้านเช่า โดยได้นำหัวเตียงเก่า ๆ มาวางกันพื้นที่หน้าบ้าน นำกระเบื้องเก่า ๆ 3-4 แผ่นมาพิงทับ ก่อนจะใช้แผ่นไวนิลเก่าพาดขึงกับหน้าด่างเหล็กดัดห้องเช่า จนกลายเป็นซอกกว้างประมาณ 1.50 เมตรยาว 2 เมตร เพื่อใช้กันแดดกันฝนเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอน
“ภายในซอกที่พักดังกล่าวปูด้วยแผ่นๆไม้กระดานเก่า ๆ ก่อนจะปูทับกระดาษลังหนา ๆ 2 ชั้นเพื่อเป็นที่หลับนอน และเวลาจะนอนจะหันหัวไปทางทิศตะวันตก ด้านในมีเตาแก๊สปิกนิก และหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเฉพาะลูกในลูกเล็ก ๆ และอยู่ในสภาพเก่า 1 ใบสำหรับหุงข้าว เหนือขึ้นไปมีขวดน้ำปลา ขวดน้ำมันพืช และขวดซอสเปล่า ๆ 3-4 ขวดวางอยู่บนแผ่นกระดาน ในขณะที่บนหัวเตียงเก่า ๆ ด้านข้างมีหมอน 1 ใบ ผ้าห่มเก่า ๆ 1 ผืน และถังพลาสติกใส่ข้าวสาร 1 ใบมีข้าวสมารอยู่ประมาณ 1 กก. ในขณะที่มีถ้วยและจานกินข้าวเก่า ๆ 3-4 ใบวางอยู่บนแผ่นกระดานด้านล่าง”
นางสมปรารถนา กลั่นมาลัย หรือยายแอ๊ด กล่าวว่าตนเป็นลูกคนจีน มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ บางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี ปัจจุบันรวมเป็นกรุงเทพ โดยทราบว่าหลังคลอดได้ไม่นานพ่อแม่ก็นำไปทิ้งกองขยะ ก่อนจะมีพ่อ แม่บุญธรรมเก็บมาเลี้ยง โดยพ่อบุญธรรมเป็นข้าราชการกรมบัญชีกลางและส่งเสียให้ตนเรียนจนจบ ป.6 โดยตนเคยเปิดดูตู้เอกสารของพ่อแม่บุญธรรมพบเอกสารระบุชื่อพ่อแม่ที่แท้จจริงของตนคือนายทวีศักดิ์ นางเกียว ส่วนพ่อแม่บุญธรรมชื่อนายประยรู นางอนงค์ เยาวรัตน์ มีพี่บุญธรรม 1 คนชื่อฐานันดร์ เยาวรัตน์ จนกระทั้งตนถูกพ่อแม่บุญธรรมดุด่าอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหวหลบหนีออกจากบ้านในขณะที่อายุแค่ 12 ปี ครั้งแรกมาอยู่ใน อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี อยู่นานถึง 12 ปี ก็ย้ายไปทำงานนับจ้างที่ จ.สงขลา ก่อนจะย้ายมาอยู่ จ.นครศรีธรรมราช และมาได้สามีเป็นชาวนครศรีธรรมราช สามีประกอบอาชีพขายวุ้น ส่วนตนรับจ้างทั่วไป เช่าบ้านอยู่อาศัยมาหลายสิบปี แต่ก็ไม่มีลูกด้วยกัน
จนกระทั้งเมื่อปี 2556 ได้ย้ายมาเช่าบ้านเลขที่ 4/475 เดือนละ 1,500 อยู่อาศัยจนเมื่อปลายปี 2557 สามีได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ ตนจึงอาศัยอยู่คนเดียวโดยตนถูกหวยได้เงิน 6,000 บาทนำมาจ่ายค่าเช่าบ้านอยู่ได้ 2-3 เดือนจนไม่มีเงินค่าเช่าบ้านจึงต้องออกจากบ้านเช่า แต่ก็ไม่รู้จะไปอาศัยที่ไหนจึงขออนุญาติเจ้าของบ้านเช่าเลขที่ 4/574 ซึ่งอยู่ติดกับบ้านเช่าหลังเดิมทำเพิกที่พักซุกหัวนอนมาจนถึงปัจจุบันนี้ และยังโชคดีที่เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตรเขาไปทำสวนปาล์มที่ จ.ศรีสะเกษ และให้ตนช่วยเฝ้าบ้านให้ และสามารถเปิดประตูรั้วเข้าบ้านชั้นนอกได้ และอนุญาตให้ตนมาอาบน้ำจากก๊อกหน้าบ้านได้ เมื่อเขากลับมาก็จะให้ค่าจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างไรก็ตามปัญหาในขณะนี้คือตนไม่ไม่ที่ถ่ายอุจจาระเพราะในหมู่บ้านนี้ไม่มีห้องน้ำห้องส้วมสาธารณะต้องถ่ายใส่ถุงไปทิ้งถังขยะ หรือบางครั้งก็ขอเพื่อนบ้านเข้าห้องส้วม สำหรับรายได้ที่พอจะมีบ้างเก็บขวดพลาสติกขายบางครั้งเพื่อนบ้านก็รวบรวมเอามาให้ด้วยความสงสาร และมีเพื่อนบ้านและคนที่ผ่านมาพบเห็นสภาพความเป็นอยู่ของตนก็ซื้อข้าวสาร อาหารแห้งมาให้บ้าง บางคนให้เงินครั้งละ 20-30 บาท และเมื่อเร็ว ๆ นี้มีทหารนายหนึ่งซื้อเตาแก๊สปิคนิคมาให้ตนได้หุงข้าวพร้อมให้เงินตน 300 บาท
นางสมปรารถนา หรือยายแอ๊ด กล่าวอีกว่า ตนนึกน้อยใจในชะตาชีวิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์แต่ต้องมาตกระกำลำบากถึงขนาดแทบไม่มีที่ซุกหัวนอน ทุกวันนี้ตนมีเพื่อนเป็นเพื่อนตายคือแมว 1 ตัวชื่อ “เจ้าสมุทร” และนกเขาชา 1 ตัวชื่อ “เจ้าโต้ง” ตนจะพูดปรับทุกข์กับแมวและนกเขาชวาทุกวัน ก่อนนอนก็จะสวดมนต์ไหว้พระทุกคืนแม้จะกลัวงูหรือสัตว์มีพิษร้ายอื่น ๆ เข้ามาฉกกัดแต่ก็ต้องทนเพราะไม่รู้จะไปอยู่ไหน และคิดว่าสัตว์ร้ายคงไม่มาทำอะไรเรา เพราะเราไม่ได้ทำอะไรใคร เมื่อเราไม่ทำอันตรายเขา เขาก็คงไม่ทำอันตรายเรา ตนอยากกลับบ้านที่บางกองน้อยก็ไม่มีเงิน และกลับไปไม่ถูก ที่สำคัญพ่อแม่บุญธรรมคงเสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนนายฐานันดร์ เยาวรัตน์ พี่ชายบุญธรรม ก็ไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่และยังอาศัยอยู่ที่เดิมหรือไม่ก็ไม่รู้”ยายแอ๊ดกล่าวอย่างหน้าสงสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางสมปรารถนา หรือ “ยายแอ๊ด” อยากจะมีบัตรประจำตัวประชาชนเป็นอย่าวมาก เพราะอิย่างน้อยจะได้รับการเยี่ยมยาช่วยเหลือจากรัฐบาลทั้งเบี้ยงยังชีพคนชรา บัตรสวัสดิการคนจนหรือสิทธิการรักษาพยาบาล แม้อยากจะกลับบ้านเก่าที่บางกองน้อย แต่ใจจริงอยากจะอยู่ จ.นครศรีธรรมราช และหากได้อยู่อาศัยในบ้านเช่าหลังเก่านี้จะดีใจเป็นอย่างมาก เพราะตนผูกพันกับสามีโดยก่อนสามีจะเสียชีวิตบอกว่า “แม่พ่อไม่ได้ไปไหน พ่อจะอยู่ในบ้านหลังนี้ตลอดไป” ตนจึงไม่อยากไปไหน แม้ไม่ได้อยู่ในบ้านเพราะไม่มีค่าเช่าก็ได้สร้างเพิกซุกหัวนอนหน้าบ้านเลขที่ 4/475 ใกล้ ๆ กับบ้านเช่าเลขที่ 4/474 ตนก็พอใจแล้ว
เมื่อผู้สื่อถามว่าวันนี้ได้กินข้าวแล้วยังนางสมปรารถนา ตอบว่ากินแล้วกับพริกน้ำปลา และไม่เหลือเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว นายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโสจึงมอบเงินสดให้ 1,000 บาท พร้อมหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาด 1.8 ลิตร 1 ใบที่ได้รับบริจาคมาไว้ในรถเพื่อไปมอบให้กับครอบครัวผู้ยากไร้อีกครอบครัวหนึ่งที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช มามอบให้กับนางสมปรารถนา ซึ่งจะเสียบไฟหุงข้าวจากบ้านเพื่อนบ้านที่นางสมปรารถนา ช่วยดูแลทำความสะอาดให้ และหากใครต้องการช่วยเหลือนางสมปรารถนา หรือ “ยายแอ๊ด” สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและช่วยเหลือได้ที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โทร/ไลน์ 081-6761299
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ จ. นครศรีธรรมราช