รวบแล้ว!“อู๋ ปากเพรียว” โจรเหี้ยม ทำร้ายร่างกายสาหัส ชิงทรัพย์ ป้าร้านโชว์ห่วยวัย 68 ปี
จากกรณี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ทิพย์ประภาแย้ม หรือ “อู๋ ปากเพรียว” อายุ 41 ปี คนร้ายใช้อาวุธมีดบุกปาดคอ และจ้วงแทง นางวิรัตน์ วิจิตรสมบัติ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านโชห่วย เลขที่ 323/36 ม.13 ภายในซอย 71 สุขุมวิทพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมกับชิงเงินสดประมาณ 2 หมื่นบาท ที่อยู่ในเสื้อเอี๊ยม ก่อนขี่รถจักรยานเพื่อนบ้านปั่นหนีไปจอดทิ้งบริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวงพัทยา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วหายตัวไปอย่างไร้รอยรอย
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.บางละมุง ร่วมกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี และตำรวจสืบสวนภาค 2 ได้ลงพื้นที่สืบสวนเก็บหลักฐานแล้วออกหมายจับ พร้อมทั้งปูพรมไล่ล่าคนร้าย ตลอด2 วันติดต่อกัน ตามที่เสนอข่าวอย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ 20 มิ.ย. 63 พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ผกก. สภ.บางละมุง ได้นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุม นายสมศักดิ์ ทิพย์ประภาแย้ม หรือ “อู๋ ปากเพรียว” อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อกล่าวหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส” พร้อมของกลาง เงินสด 8,000 บาทโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เสื้อผ้าที่ใส่หลบหนี 1 ชุด และมีดปอกผลไม้ 1 เล่ม โดยสามารถจับกุมที่ได้รีสอร์ทแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดระยอง
พล.ต.ต.ประการ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้าย และจี้ชิงทรัพย์ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยกล้องวงจรปิดสามารบันทึกพฤติการณ์คนร้ายตอนก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ออกมาแสดงความห่วงใยส่งตัวแทนมาเยี่ยมผู้เสียหาย ยังโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา พร้อมเร่งรัดตำรวจชุดทำงานเร่งรัดติดตามมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
สำหรับแนวทางการสืบสวน หลังจากเกิดเหตุตำรวจชุดทำงาน ได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อม และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด จนทราบว่าหลังจากคนร้ายก่อเหตุได้เอารถจักรยานเพื่อนบ้านปั่นหนี ไปจอดทิ้งอยู่ที่บริเวณสถานีตำรวจทางหลวงพัทยา ก่อนนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปซื้อเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุด ที่บริเวณหลังตลาดวัดชัยมงคลพัทยาใต้ ก่อนจะว่าจ้างรถแท็กซี่เมืองพัทยา ไปส่งยังตลาดแห่งหนึ่งตัวเมืองระยอง เพื่อจะหลบหนีต่อ แต่ปรากฏว่ารอบขนส่งหมดพอดี คนร้ายจึงไปเปิดห้องพักในรีสอร์ทใกล้เคียงจุดดังกล่าว ตำรวจชุดทำงานที่เฝ้าพฤติกรรมอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริงชิงทรัพย์จริง เนื่องจากในวันเกิดเหตุตนได้เมาสุรา และต้องการเงินเพื่อมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งเคยโต้เถียงกับผู้เสียหายกรณีซื้อขายสินค้า ภายหลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหา เดินทางมายังจุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดต่างๆ ท่ามกลางชาวบ้านกว่า 100 คน ที่มามุงดูหน้าตาคนร้าย หลังจากเสร็จการทำแผนตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บรรยงค์ จันทร์รอด / ทิวากร กฤษมณี จ.ชลบุรี