สายผับ บาร์คาราโอเกะ ตบเท้าคุยปธ.กลั่นกรองปลดล็อคกิจการเฟส 4 หลังวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ส่วนสถานประกอบการ อาบอบนวด จะยังไม่ได้รับการผ่อนปรน
ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้มีเจ้าของ และผู้ประกอบการผับ บาร์ รวมถึงสถานบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จนกระทบต่อธุรกิจ ได้เดินทางร่วมพูดคุยกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และในฐานะกรรมการ ศบค.ชุด สมช. หารือร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการผับ บาร์ และคาราโอเกะ เพื่อพูดคุยและรับฟังข้อเสนอในการวางแนวทางการผ่อนคลายมาตรการสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว
โดยพล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เพื่อนำมติเข้าสู่ที่ประชุม ศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชน อีกทั้งในขณะนี้ เป็นการผ่อนคลายระยะที่สี่ ซึ่งการผ่อนคลายจะต้องให้ความสำคัญ 2 ข้อใหญ่ คือ 1. กิจการ-กิจกรรม ต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยง รวมถึงผลกระทบของเศรษฐกิจและสังคม ว่าอะไรมีความจำเป็นมากกว่ากัน จะต้องทำเปรียบเทียบกัน 2. ความพร้อมในส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ รวมถึงความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแล
ทั้งนี้การแก้ปัญหาที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เกิดจากความร่วมมือของคนไทยทุกคนในการทำตามมาตรการของภาครัฐ และการผ่อนคลายในระยะเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ส่วนตัวยอมรับว่า ศบค. ไม่สามารถที่จะติดตามได้ทุกธุรกิจ และในวันนี้จะมารับทราบถึงปัญหา
ที่ผู้ประกอบการมาพูดคุยกัน เพื่อรับทราบถึงข้อปัญหาทุกอย่างที่พูดคุยกัน แล้วนำมาเป็นข้อสรุปในการผ่อนคายกิจการ-กิจกรรม ต่อไป
ทางด้าน นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า ความลำบากของที่ผู้ประกอบการถนนข้าวสารได้พบเจอ คือ ก่อนการผ่อนคลายระยะที่ 4 ผู้ประกอบการไม่ได้รับอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงมาตรการเคอร์ฟิว ทำให้ผู้มาใช้บริการไม่สามารถใช้บริการได้เกินกำหนดระยะเวลาที่ภาครัฐจะกำหนดไว้
แต่ขณะเดียวกันยังมีธุรกิจชนิดอื่นที่ไม่ใช่ ผับ บาร์ หรือสถานบันเทิง เช่น ร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่สามารถผ่อนปรนได้ เพราะร้านค้าแต่ละร้านทำตามมาตรการที่รัฐกำหนดไว้ ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ประกอบการทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของ ศบค. ที่ทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศเป็นระยะเวลา 28 วัน แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการ คือ หากบางธุรกิจต้องลดจำนวนพนักงาน หรือลูกจ้างออกไป ภาครัฐจะมีนโยบายช่วยเหลืออย่างไร ทุกคนอยากเห็นมาตรที่เป็นรูปธรรม หากยังไม่ปลดล็อคให้ธุรกิจสถานบันเทิง ภาครัฐจะช่วยอย่างไร
ส่วนตัวขอแค่ให้ภาครัฐช่วยผ่อนคลาย เพราะผลกระทบกระทบนั้น ส่งผลให้กลุ่มนักดนตรี ที่ไม่ใช่พนักงานประจำ ไม่มีรายได้ ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน/ครั้ง ในการมาแสดงดนตรี ตนจึงอยากจะเสนอให้ภาครัฐหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างชัดเจน
ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล ให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ว่าอาจผ่อนปรนกิจการปรเภท ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ให้กลับมาเปิดได้หลังวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่จะต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ อีกครั้ง ในวันที่ 26 มิถุนายน เพราะยังมีข้อกังวลเรื่องความพร้อมของผู้ประกอบการและลูกค้าที่ใช้บริการ ส่วนสถานประกอบการ อาบอบนวด จะยังไม่ได้รับการผ่อนปรน แต่จะนำมาหารืออีกครั้งในโอกาสถัดไป