เจ้าของร้านอุปกรณ์ตกปลา เครียดปัญหาส่วนตัวคิดไม่ตก ตัดสินใจลาโลกหลังโรงเจ ย่านอุดมสุข
วันที่ 23 มิถุนายน 2563 เวลา 18.00 น. ร.ต.อ.สุนทร ชูช่วย รอง สว.สอบสวน สน.บางนา ได้รับแจ้งมีเหตุผู้เสียชีวิตสาเหตุจากการโดนยิงด้วยอาวุธปืน จึงเร่งรุดจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬา และ กองพิสูจน์หลักฐาน ( พ.ฐ.) รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลังโรงเจ ภายในซอย อุดมสุข 26 แยก 51 แขวง บางนา เขต บางนา จังหวัด กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา ชื่อนาย ธงชัย แจ่มเจริญพิศาล อายุ 42 ปี สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นลายจุดสีเทา สวมใส่รองเท้าแตะ ลักษณะ นอนหงายหน้า มีบาดแผลขนาดใหญ่บริเวณใบหน้านอนจมกองเลือดจำนวนมาก ข้างลำตัวมีอาวุธปืนลูกซองยาวตกอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ปลิดชีพชายคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดล้อมพื้นที่ไว้โดยไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ที่เกิดเหตุเป็นอันขาด เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบถามจาก คุณสุนีย์ พลปิยะ อายุ 62 ปี เป็นคนอาศัยแถวที่เกิดเหตุและสนิทคุ้นเคยกับผู้ตาย บอกเล่าว่า “ผู้ตายเป็นลูกเจ้าของโรงเจ เปิดร้านขายเบ็ดตกปลาอยู่ใกล้ๆนี่แหละ เมื่อวานมีเรื่องอะไรกันก็ไม่รู้นะ คนที่โดนผู้ตายต่อว่า มาเล่าให้ฟังว่า “ไปคุยกันไกลๆหน่อยได้มั้ย มันได้ยินเสียงวิ้งๆในอยู่หูกู” สักพัก ลูกชายก็กำลังเก็บของเข้าบ้าน ผู้ตายเดินมาจับมือแล้วก็บอกว่า “เฮ้ย! มึงเลิกขายได้มั้ยว๊ะ! ลูกก็บอก ‘อ้าวทำไมให้กูเลิกขายล่ะ’ ผู้ตายบอก ‘กูให้ 5 พัน มึงเอาไป หมื่นสองเลย กูให้หมดเลย เลิกขายไปเลย’ ลูกชายก็ไม่พูดไรต่อ หลังจากนั้นลูกชายก็เก็บของเข้าบ้าน ก็เห็นผู้ตายเดินไปซื้อเบียร์ซื้อของมากินข้างใน แล้วก็ไม่รู้อะไรอีกเลย มารู้อีกที ก็ตอนเย็นกลับจากทำงานมา มีคนเข้ามาจอดรถในนี้ เค้าก็มาบอกว่า มีคนยิงตัวตายข้างใน เราก็คนที่นี้เลยลองเดินเข้าไปดู ก็มองๆหา เห็นแต่เท้า หามองดูหน้าคือจำหน้าไม่ได้เลย แล้วญาติเค้าก็เดินตามเข้ามาดูด้วย เค้าจำเสื้อผ้าได้ บอกใช่ตี๋ มีปืน อยู่ข้างๆตัวเค้าด้วย เค้าจะมีอยู่ประจำ ปกติแล้วผู้ตายไม่ค่อยคุยอะไรกับใคร ถ้าเค้าได้คุยหรือระบายกับเพื่อนหรือใครสักคน อาจจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ พอมาเกิดเหตุแบบนี้ ก็เลยบอกให้หลานเค้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการในส่วนนี้”
ทางด้านคุณ ปริยา พลปิยะ อายุ 44 ปี คนที่คุยกับผู้ตายเมื่อคืนนี้บอกล่าวว่า “ตนขายของอยู่ใกล้ๆร้านเค้าประจำนี่แหละ ขายจนดึกคู่กัน มีมาเมื่อคืนนี้ เค้ามาบอก ประมาณว่าอย่าเสียงดังได้มั้ย เค้าปวดหัว ปวดหัวมาก ไม่อยากได้ยินเสียงอะไรเลย ตนเลยย้ายร้านให้ห่างออกมาจากร้านเค้า แล้วก็บอก เออ วันนี้กูจะขายแบบเงียบๆเลย”
ส่วนคุณสมดี แจ่มเจริญพิศาล อายุ 31 ปี เป็นน้องชายผู้ตาย บอกว่า “ตนเป็นน้องของผู้ตาย แต่พักคนละที่กัน มีครอบครัวก็แยกย้ายกันออกไป ส่วนผู้ตายอาศัยในฌรงเจ เพราะครอบครัวเป็นที่สร้างโรงเจมาตั้งแต่แรกเริ่ม ผู้ตายจะรู้สึกผูกพันกับที่นี้มาก เคยพูดไว้ว่า ถ้าเกิดเจ็บป่วยหรือเป็นไรไปก็จะตายอยู่ที่นี้ ผู้ตายเคยเป็นโรคซึมเศร้า เคยมีครอบครัว แต่เลิกลากันไปนานแล้ว หลังจากนั้นก็อยู่คนเดียวมาตลอด เค้าจะเป็นคนดูแลลานจอดรถด้วย เช้ามาก็ออกมาเปิดร้าน เพราะร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ร้านปิดก็เดินเข้าโรงเจ”
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้เพื่อส่งไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วจะขอเชิญพยานทั้งหมดไปสอบถามที่ สน.อีกครั้ง ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องรอผลจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก่อนถึงจะสรุปถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ ส่วนแพทย์นิติเวช ได้มอบหมายให้อาสาสมัครร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิต ส่งสถาบันนิติเวชจุฬา เพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้งเมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วจะติดต่อญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ชุติเดช ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าว กทม.
