ผบ.เรือนจำชลบุรี ไอเดียร์เจ๋ง สร้างนิคมอุตสาหกรรมให้ผู้ต้องขังทำงานในเรือนจำ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ที่เรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี เลขที่ 123 ม.4 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการจุดตั้งนิคมอุตสหากรรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะ นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ผู้สนับสนุนเรือนจำกลางจ.ชลบุรี, ตัวแทนสภาอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี ฯลฯ ได้ร่วมประชุมเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคม อุตสาหกรรมราชทันฑ์เรือนจำกลางชลบุรี โดยมี ดร.ชาญ วชิรเดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เรือนจำ ให้การต้อนรับ
สืบเนื่อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีนโยบายให้ผบ.เรือนจำทั่วประเทศ ได้ฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังและนักโทษภายในเรือนจำ เพื่อเสริมสร้างทักษะในการประกอบอาชีพ ปรับเปลี่ยนความประพฤติ นิสัยก่อนพ้นโทษ และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ราชทัณฑ์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการดังกล่าว
นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานอนุกรรมการเพื่อศึกษาแนวทางการจัดตั้งนิคมอุตสหากรรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะอนุกรรมการ จึงได้ลงพื้นที่เรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เนื่องจากดร.ชาญ วชิรเดข ผบ.เรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี มีแผนงานโครงการฝึกวิชาชีพด้านอุตสาหกรรมในพื้นที่เรือนจำกลางชลบุรี ซึ่งมีผลกระดำเนินงานคืบหน้าไปอย่างมาก
สำหรับเรือนจำกลางชลบุรี เดิมตั้งอยู่ที่ถนนวชิรปราการ ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ได้ย้ายมาอยู่ที่ 123 ม.4 ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่ จำนวน 291 ไร่ 42 ตารางวา ปัจจุบันมีผู้ต้องขัง จำนวน 7,185 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2563) และใช้พื้นที่จำนวน 85 ไร่ จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 2 โรงงาน ซึ่งมีระยะเวลาก่อสร้าง 3 เดือน
ดร.ชาญ กล่าวว่า นิคมอุตสาหกรรมราชทันฑ์ เป็นศูนย์เตรียมความพร้อมผู้ต้องขัง นักโทษก่อนปล่อยตัว ภายในศูนย์มีสถานที่ฝึกอบรมอาชีพ สถานที่ออกกำลังกาย มีสวนหย่อม ที่เยี่ยมญาติแบบเปิด เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติประชาชนที่มีกับเรือนจำ ทางเราไม่เน้นสร้างรายได้เข้าเรือนจำ แต่เน้นการสร้างงานให้กับผู้ค้องขังและนักโทษ ได้ฝึกอาชีพ ลดการกระทำผิดซ้ำ ประสานกับผู้ประกอบการ (ศูนย์แคร์) เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกไปก็จะได้มีงานทำทุกคน และผู้พ้นโทษ ยังจะได้รับเงินค่าอาหาร รถค่าเดินทาง กลับบ้านจาก “นายกเป้า” นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรจ.ชลบุรี ที่ใช้เงินส่วนตัวตั้งเป็น “กองทุนพาเพื่อนกลับบ้าน” เพื่อเป็นการเยียวยา ช่วยเหลือไม่ทอดทิ้งเพื่อนมนุษย์
ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี