คนระยอง โทรถามชื่อห้าง ส่วน โรงแรม-ห้างดัง ลั่นไม่ได้รับลูกเรือ ทหารอียิปต์ที่ติดโควิด
จากกรณีที่หลายฝ่ายให้การจับตามองอย่างใกล้ชิด นั้นก็คือกรณีไทม์ไลน์การติดเชื้อของทหารชาวอียิปต์ อายุ 43 ปี มีอาชีพทหาร ซึ่งเดินทางมาพร้อมคณะลูกเรือทั้งหมด 31 ราย โดยเดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ และปากีสถาน เข้าประเทศไทยผ่านทางสนามบินอู่ตะเภาเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2563 และเข้าพักยังโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง และจากนั้นบินไปทำภารกิจที่ เฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันเดียวกัน และกลับเข้าพักยังโรงแรมเดิมที่ จ.ระยอง และวันที่ 11 ก.ค.2563 ทั้งหมดเดินทางออกจากไทยกลับอียิปต์ และจากการตรวจคัดกรองอาการลูกเรือ 31 ราย ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.2563 ผลตรวจออกมาจากห้องปฎิบัติการในวันที่ 12 ก.ค.2563 พบว่าลูกเรือติดเชื้อ 1 ราย
ซึ่งล่าสุดพบผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า ได้โทรศัพท์ไปขอชื่อห้างเพราะคนระยองมีสิทธิรู้ แต่ทางสายด่วนได้ตอบกลับว่า ข้อมูลความมั่นคงให้ไม่ได้ และได้ถามกลับไปอีกว่า คนระยองจะระวังอย่างไร ซึ่งปลายสายกล่าวว่า ถ้าหากไปห้างหรือโรงแรมวันเดียวกับทหาร แนะให้กักตัว 14 วัน และยังมีการถามต่อว่า ห้างไม่ได้มีที่เดียวจะรู้ได้อย่างไร แต่ก็ไม่ได้คำตอบ เพียงแต่แนะนำให้กักตัว 14 วัน
จึงทำให้กลายเป็นเรื่องที่ถูกที่วิพากษ์วิจารณ์มากในขณะนี้ เพราะมีอีกหลายคนที่อยากจะรู้ว่าสถานที่เสี่ยงใน จ.ระยองนั้นคือที่ไหนกันแน่ ว่ามีความกังวลอย่างหนัก เพราะไม่มีการเปิดเผยว่า ห้างที่มีข่าวนั้นเป็นห้างใด
ล่าสุด เพจ Passione Shopping Destination ได้โพสต์ข้อความว่า “Holiday Inn & Suites Rayong City Centre ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับลูกเรือ , ทหาร ทีมที่เป็นข่าวดังกล่าว และขอยืนยันว่าทางโรงแรม ไม่มีนโยบายรับลูกเรือ และ Guest ต่างชาติ ที่ไม่ผ่าน State Quarantine กักตัวไม่ถึง 14 วันเข้าพัก และที่โรงแรมไม่ใช่ State Quarantine ของทางภาครัฐบาล
ศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้งเดสติเนชั่น ยังคงดำเนินมาตรการฉีด พ่น ฆ่าเชื้อ ทั้งศูนย์ฯ ร้านค้า , ร้านอาหาร ทุกวันศุกร์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.ค. 63 และคืนนี้ทางศูนย์ฯ จะดำเนินการฉีด พ่น ฆ่าเชื้อ ร้านค้า , ร้านอาหาร พื้นที่ส่วนกลางของศูนย์การค้าฯ ทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและรักษามาตรฐานความปลอดภัยที่ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ทีมข่าวภูมิภาค รายงาน