ก.ต่างประเทศ ยืนยันนักการทูตชาวเอสโตเนีย ไม่ใช่ VIP
นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยไทม์ไลน์ของนักการทูตชาวเอสโทเนีย ว่าทำหน้าที่ประจำอยู่ประเทศไทย ได้เดินไปปฏิบัติหน้าที่ที่แฟรงก์เฟิร์ต วันที่ 15 ก.ค. และเดินทางกลับถึงไทยวันที่ 16 ก.ค. เวลา 14.00 น. ก่อนขึ้นเครื่องได้ตรวจเชื้อแล้ว ผลคือไม่พบเชื้อ และเมื่อเดินทางมาถึงไทย เจ้าหน้าที่ต้นสังกัดได้เดินทางไปรับนักการทูตรายนี้ที่สนามบิน และทำการตรวจโควิดอีกครั้ง ระหว่างอยู่ที่สนามบินได้รอจนผลตรวจออกมาอีกครั้ง พบว่าผลเป็นลบ แสดงว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่พิสูจน์ทราบว่าไม่มีเชื้อโควิด
นายเชิดเกียรติ กล่าวว่า เมื่อนักการทูตทราบผลได้เดินทางมายังที่พักเพื่อกักตัว 14 วัน ในสถานที่ที่ต้นสังกัด กำหนด ตามเกณฑ์ข้อปฏิบัติ โดยจัดรถที่มีฉากกั้นระหว่างผู้ขับกับนักการทูต ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ไปรับนั่งแยกรถกันกับนักการทูต อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินทางถึงที่พัก คณะกรรมการนิติบุคคลคอนโดฯได้แจ้งว่า ไม่อนุญาตให้เข้าพัก หลังจากนั้นสำนักงานจึงประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และได้ข้อยุติว่า นักการทูตจะเดินทางไปพักที่ ASQ หรือ โรงแรมที่รัฐกำหนดไว้ และได้เข้าพักเรียบร้อยแล้ว และจะอยู่ภายใต้การดูแลของสาธารณสุข
เมื่อถามว่า ยังมีเคสอื่นที่เข้ามาอีกหรือไม่ นายเชิดเกียรติ กล่าวว่า นักการทูต จะเข้ามาเป็นระยะ แต่ไม่ได้มีเป็นจำนวนมาก โดยเข้ามาเพื่อปฏิบัติภารกิจส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประเทศ และการเดินทางเข้ามาจะต้องทำตามกฎระเบียบของ ศบค. และที่หลายคนมองว่า การเข้ามาของนักการทูต เป็น VIP มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ขอชี้แจงว่า นักการทูต ไม่ใช่ VIP แต่เป็นการได้รับการคุ้มครองตามอนุสัญญาเวียนนา ซึ่งเอกสิทธิ์คุ้มครองนี้ก็เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ ในประเทศเราได้ อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ภายใต้อนุสัญญานี้ นักการทูตต้องปฏิบัติตาม ระเบียบกฎหมายของประเทศเจ้าบ้าน แปลว่า จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค. โดยในช่วงนี้จะยังมีนักการทูต เข้ามาอีก 2-3 คน โดยจะขอความร่วมมือ และคำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ