วันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับทราบเรื่องราวสุดรันทดสะเทือนใจสังคมไทยยิ่งนัก พบว่านักเรียนหญิง ชั้นป.6 โรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นนักเรียนที่เรียนดี แต่ฐานะยากจน ขอลาออกจากโรงเรียนเพื่อออกไปหาเงินเลี้ยงดูแม่ตาที่บอด จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ ด.ญ.สุดารัตน์ สมหวัง หรือน้องเต้ย อายุ 12 ปี กำลังปรนนิบัติ นางวรรณา สมหวัง อายุ 41 ปี มารดาที่พิการตาบอดสนิททั้งสองข้าง อยู่ในบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงปูพื้นด้วยไม้ไผ่สภาพทรุดโทรม
นายธาดา ธิกุลวงษ์ ผอ.โรงเรียนบ้านทุ่งมะกอก กล่าวว่า น้องเตย เป็นเด็กที่ผลการเรียนดี แต่ที่บ้านมีฐานะยากจนได้ และหลังจากที่โรงเรียนเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 ที่ผ่านมา น้องเต้ยไม่มาโรงเรียน ตนจึงให้ครูประจำชั้นไปตรวจสอบที่บ้านเพื่อหาสาเหตุว่าขาดเรียนเพราะอะไร แต่ต้องเศร้าใจยิ่งนัก เมื่อทราบว่าน้องเต้ยขาดเรียนเพราะต้องไปรับจ้างทำงานเพื่อหางานมาเลี้ยงแม่ที่ตาบอด และน้องเต้ยยังขอลาออกจากโรงเรียน เพื่อจะได้ทำงานหาเงินเลี้ยงแม่ได้อย่างเต็มที่ แต่เป็นการศึกษาภาคบังคับ ตนจึงได้ปรึกษากับคณะครูเพื่อหาทางช่วยเหลือ โดยตนขอให้น้องเต้ยกับมาเรียนเหมือนเดิม และจะจ่ายให้น้องเต้ยวันละ 100 บาท จนจบภาคเรียนในระดับชั้น ป.6 พร้อมอนุญาตให้น้องเต้ยพาแม่มาดูแลที่โรงเรียนได้ โดยทางโรงเรียนได้จัดหาอาหารกลางวันให้แม่น้องเต้ยด้วย ต่อมาตนได้นำเรื่องราวของน้องเต้ยลงในโลกโซเชี่ยล จนขณะนี้มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคผ่านบัญชีทางโรงเรียนกว่า 70,000 บาทแล้ว ทางโรงเรียนจึงต้องปิดบัญชีชั่วคราวก่อน และจะไปเปิดบัญชีเป็นชื่อน้องเต้ยในวันที่ 20 ก.ค. โดยจะมีตนและกำนันตำบลองค์พระ เป็นผู้ดูแลบัญชีการเบิกจ่าย เพื่อกันคนรอบข้างของน้องเต้ยที่ทราบข่าวจะมาวุ่นวายเรื่องเงินในบัญชีของน้อง
ด้านนายวัฒนา ยั่งยืน ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่านายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่ไปพบและเยี่ยมให้กำลังใจน้องเต้ย พบว่าชีวิตน่าส่งสาร มีพี่สาว 1 คน แต่ครอบครัวและย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ส่วนบิดาได้ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ ได้สอบถามความต้องการของน้องเต้ย ทราบว่าอยากให่ซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัย
และรถจักรยานยนต์ คันใหม่ เนื่องจากคันเดิมใช้งานมานาน ต้องซ่อมเป็นประจำรวมทั้งทุนการศึกษา ตนจะได้นำเรื่องไปเรียนผู้เกียวข้องเพื่อช่วยเหลือน้องต่อไป นอกจากนี้ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้แสดงความห่วงใย และให้ตนเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว พร้อมมอบเงินส่วนตัวเพื่อเป็นทุนการศึกษาจำนวน5000 บาท และจะได้ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือต่อไป
วัฒนพล มัจฉา ผู้สื่อข่าว จ. สุพรรณบุรี