รวบ 2 ผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 12 ล้านเม็ดหลบหนีการจับกุมในปั้มน้ำมันหนองบัวลำภู ไปจนมุมที่รอยต่อจังหวัดเลย
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ( ปปส.)ได้ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายสิกานต์ หรือแนท ทองแผ่น อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 8 ตำบลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี , 2.นายกิตติศักดิ์ หรือปอ หรือซูส กรรณ์เกตุแก้ว อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/1 หมู่ที่ 8 ตำบลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะกลมแบนสีส้มและสีเขียวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าและสีชมพูชนิดเปิดปิดหุ้มห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลเคลือบด้วยเทียนไขบรรจุอยู่ในถุงกระสอบปุ๋ย จำนวน 24 กระสอบ รวมเป็นยาบ้าทั้งหมดประมาณ 12,000,000 เม็ด ( สิบสองล้านเม็ด ) 2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้นั่งสี่ตอน) ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น HIACE สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร (รถบรรทุกยาเสพติด) จำนวน 1 คัน 3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี (รถทำหน้าที่นำทาง) จำนวน 1 คัน
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้มีเครือข่ายยาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดกับชายแดนไทย-ลาว เพื่อนำยาเสพติดไปส่งมอบให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร โดยเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวจะใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี เป็นยานพาหนะในการขนลำเลียงยาเสพติด ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่ารถยนต์ทั้ง 2 คัน ไปจอดอยู่ภายในหมู่บ้านร่มเย็น ซอย 1 เทศบาลตำบลหนองบัว อำเภอเมือง อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี และต่อมามุ่งหน้าไปที่ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย โดยมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี ขับขี่นำหน้าลักษณะขับขี่นำทาง และมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ตามหลัง เมื่อรถยนต์เป้าหมายทั้งสองคันขับขี่ไปถึงชายแดนไทยลาวบริเวณตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย แล้วรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร ได้เลี้ยวเข้าไปในซอยเปลี่ยว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ได้ตามเข้าไปแต่ได้ซุ่มโป่งอยู่บริเวณใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่สะกดรอยติดตามอีกชุดพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี ได้จอดรออยู่บริเวณตลาดเช้าในอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย แล้วเวลาต่อมารถยนต์ทั้งสองคันได้ขับขี่ออกจากอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย มุ่งหน้าไปทางอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ผ่านตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี ขับขี่นำทาง และมีรถยนต์นั่ง ส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ตามหลัง รถยนต์ทั้งสองคันได้ขับขี่มุ่งหน้าไปทางตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู
และต่อมา รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี ได้ขับเข้าไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ศรีบุญเรือง หมู่ที่ 4 ตำบลหันนางาม อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน PT ของบริษัทธัชชญา 2018 จำกัด เลขที่ 128 หมู่ที่ 8 ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเติมน้ำมันในช่องเติมน้ำมัน จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ส่งสัญญาณให้เข้าทำการสกัดเพื่อตรวจค้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้จอดรถยนต์ปิดหัวท้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้) ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮธ-5147 กรุงเทพมหานคร ที่มีนายกิตติศักดิ์ หรือปอ หรือซูส กรรณ์เกตุแก้ว (ทราบชื่อและสกุลจริงภายหลังจับกุม) เป็นผู้ขับขี่พอเห็นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ขับพุ่งชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดปิดหัวท้ายรถยนต์จนได้รับความเสียหาย และขับขี่หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามอย่างกระชั้นชิด จนไปถึงบริเวณป่าอ้อยริมถนนภายในหมู่บ้านวังลาน หมู่ที่ 8 ตำบลผานกเค้า อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย รอยต่อของ จ.หนองบัวลำภู นายกิตติศักดิ์ หรือปอ หรือซูส กรรณ์เกตุแก้ว ได้จอดรถยนต์เปิดประตูวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปิดล้อมพื้นที่และจับกุมตัวไว้ได้ ค้นในรถยนต์พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะกลมแบนสีส้มและสีเขียวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีฟ้าและสีชมพูชนิดเปิดปิดหุ้มห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลเคลือบด้วยเทียนไข บรรจุอยู่ในถุงกระสอบปุ๋ยจำนวน 24 กระสอบ รวมเป็นยาบ้าทั้งหมดประมาณ 12,000,000 เม็ด อยู่ภายในรถยนต์ตู้คันดังกล่าว
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดที่สะกดรอยติดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย-4714 ลพบุรี ที่ได้ขับขี่เข้าไปจอดในปั๊มน้ำมัน ปตท.ศรีบุญเรือง หมู่ที่ 4 ตำบลหันนางาม อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบนายสิกานต์ หรือแนท ทองแผ่น เป็นผู้ขับขี่ โดยนายสิกานต์ หรือแนท ทองแผ่น ให้การรับสารภาพว่าได้ทำหน้าที่ขับขี่รถยนต์นำทาง และคอยแจ้งนายกิตติศักดิ์ หรือปอ หรือซูส กรรณ์เกตุแก้ว ผู้ต้องหาที่ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลรถตู้ ที่บรรทุกยาบ้าจริง และผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การยอมรับว่าผู้ที่ว่าจ้างในการขนยาบ้าในครั้ง คือ นายบาส เป็นเพื่อนรุ่นพี่ให้มาขนยาบ้าไปส่งไว้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระบุรี ได้ค่าจ้าง ครั้งละ 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ขนมาแล้วจำนวน 5 ครั้ง โดยในเดือนมิถุนายน 2563 จำนวน 2 ครั้ง และในเดือนกรกฎาคม 2563 รวมครั้งนี้ด้วยเป็น 3 ครั้ง จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 คนว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดที่บริเวณที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ศรีบุญเรือง หมู่ที่ 4 ตำบลหันนางาม อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ต่อเนื่องถึงป่าอ้อยริมถนนภายในหมู่บ้านวังลาน หมู่ที่ 8 ตำบลผานกเค้า อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย, ต่อเนื่องถึงบริเวณสวนยางพาราริมถนนภายในหมู่บ้านวังลาน หมู่ที่ 8 ตำบลผานกเค้า อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำทั้งสองคนพร้อมของกลางทั้งหมดมาที่กลุ่มงานการข่าว (ศวข.กท.) กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ( ปปส.) เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว วรรธนะ ทองดี ผู้สื่อข่าว จ.หนองบัวลำภู