ผู้เสียหายจากการบริจาคเงินช่วยดับไฟป่าเชียงใหม่ให้ฌอน เข้าให้ปากคำกับปลัดอำเภอแม่ริมเตรียมดำเนินคดีเพิ่มกับฌอนเพื่อเป็นแบบอย่างการรับบริจาค
จากกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับ“ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่มีการทำโครงการเกี่ยวกับการรับเงินบริจาค ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับถูกเพจเฟซบุ๊คออกมาตั้งข้อสงสัยกรณีเปิดรับเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่ เนื่องจากทีมดับไฟป่าในพื้นที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการดังกล่าวเลย แม้นายฌอน จะออกมาชี้แจ้งโดยคลิ๊ปวีดีโอ แต่คำชี้แจ้งก็มีข้อสงสัยแก่ประชาชนเป็นอย่างมาก ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 ก.ค.63 ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีกลุ่มผู้เสียหายที่เป็นคนที่โอนเงินให้นายฌอน บูรณะหิรัญ ได้นำหลักฐานการโอนเงิน พร้อมใบแจ้งความร้องทุกข์มาพบกับ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เจ้าของฉายาปลัดจอมแฉ โดยนายดล (นามสมมุติ)วัย 27 ปี หนึ่งในผู้ที่ร่วมบริจาคเงินเข้าบัญชีฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง เพื่อนำไปช่วยดับไฟป่าและหมอกควันเชียงใหม่ เดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพ เพื่อให้ปากคำกับทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม
โดยบอกว่า ยอมจ่ายเงินค่าเครื่องบินไปกลับ 3 พันกว่าบาท เพราะอยากที่จะให้มีการตรวจสอบเงินบริจาคในบัญชีของฌอน เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่อยากร่วมช่วยเหลือในการดับไฟป่า หลังจากได้รับข้อมูลและภาพจากเพจของนายฌอน ทีแรกก็เห็นทีท่าดีมีความตั้งใจ และตนก็อยากมีส่วนร่วมกับการช่วยเหลือการดับไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือ จึงบริจาคเงินจำนวน 200 บาทเมื่อเวลา 09.46 น.วันที่ 2 ก.ค.63 แต่ต่อมากลับมีข่าวการนำเงินที่บริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จึงติดต่อมาที่ศูนย์ดำรงธรรม เพราะอยากให้ทางราชการตรวจสอบและดำเนินคดีเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการขอรับบริจาคและหากพบเงินของตนเองที่บริจาคไปถูกนำไปใช้อย่างอื่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม เปิดเผยว่าตอนนี้มีผู้เสียหายที่บริจาคเงินให้นายฌอน ติดต่อขอให้ข้อมูลแล้ว 3 ราย ซึ่งภายใน 2-3 วันนี้ก็จะสอบสวนปากคำทั้งหมดทั้ง และให้ทั้งหมดร้องทุกข์กล่าวโทษ และเราจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนายฌอน แม้ตอนนี้นายฌอน จะออกมายินยันจะมีการคืนเงินบริจาคจำนวน 1.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่เงินจำนวนนี้จะได้นำมาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาไฟป่าเชียงใหม่ แต่ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ถือว่าเป็นคนละส่วนกัน เพราะการที่คุณเปิดรับบริจาค นำเงินโอนไปนั้นไปนี้ แล้วพอเกิดเรื่องก็บอกจะคืนทั้งหมด แล้วอย่าคิดว่าจะจบ ทางศูนย์ดำรงธรรมเราจะขุดคุ้ยต่อไปว่า การเปิดรับบริจาคมีการเปิดรับบริจาค 3 บัญชีหรือไม่ ยอดเงิน 3 บัญชีมี 1.3 ล้านบาทจริงหรือ และเมื่อตอนนี้เราได้พยานทั้งในส่วนที่เป็นหน่วยงานราชการ ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ไฟป่าว่าไม่เคยได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงพยานที่เป็นคนโอนเงินจริงๆหลายปาก เราก็จะตั้งเป็นคดีตามกฏหมายได้ ลำดับแรกก็พรบ.เรี่ยไร ลำดับต่อไปก็ต้องดูว่าจะเข้าข่ายช่อโกง พรบ.คอม หรืออื่นๆอีกหรือไม่ ตรงนี้ต้องขอเวลาการทำงาน เพราะเราทำเราทำให้ถึงที่สุด อย่าคิดว่าคืนเงินแล้วจะจบ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายสราวุธ วรพงษ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ถึงกรณีที่ฌอนจะเดินทางเข้ามามอบเงินจำนวน 1.3 ล้านบาทให้กับทางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการเปิดรับบริจาคช่วยเหลือไฟป่า ในวันที่ 24 ก.ค. 63 ซึ่งทางด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อจากฌอนแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าได้ติดต่อผ่านใครมา สำหรับวันที่ 24 ก.ค. 63 ทางจังหวัดเชียงใหม่ และหัวหน้าส่วนราชการจะต้องเดินทางไปต้อนรับ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ก็อาจจะไม่มีหัวหน้าส่วนราชการอยู่ในพื้นที่ เพราะต้องเดินทางไปต้อนรับท่านนายกรัฐมนตรีและเข้าร่วมกิจกรรมการปลูกป่า อาจจะเหลือเพียงเจ้าหน้าที่หรือรักษาการในห้วงดังกล่าวเท่านั้น
กรรณิกา วชิรโสภาพรรณ ผู้้สื่อข่าว จ.เชียงใหม่
