ตำรวจตรึงกำลังเป็นร้อยงานเผานายคิว ที่ถูกแทงเสียชีวิต ตรวจเข้มวัยรุ่นร่วมงาน ค้นพบพกยาเคตามีน จับส่งดำเนินคดี
บรรยากาศที่วัดมหาวงษ์ ต.สำโรง อ.พระประดง จ.สมุทรประแดง ซึ่งวันนี้ 23 ก.ค.63ครบกำหนดวันเผาศพของนายรัชต์พงษ์ หรือคิว วาสนา ที่ถูกแทงด้วยเหล็กชูชาร์ปจนเสียชีวิตและมีเรื่องบานปลายมีการยกพวกเข้าไล่ทำร้ายกลุ่มผู้ก่อเหตุในโรงพยาบาลทั้งสองแห่งในพื้นที่ตำบลสำโรงใต้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งบรรยากาศทั่วไปเป็นไปอย่างโศกเศร้า ภายในงานได้มีบรรดาเพื่อนของนายคิว ผู้เสียชีวิตทยอยเดินทางมาร่วมในงานเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าตำรวจ นำโดย พ.ต.อ. พัลภล แอร่มหล้ า ( อะ-แหล่ม-หล้า) รอง ผบก.ภ.จว.จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ. อนันต์ ชัยชาญ ผกก.สภ.สำโรงใต้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมทั้งเจ้าหน้าที่ นปภ.อาวุธครบมือ กว่า 100 นาย พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และกล้องวงจรปิดมาทำบันทึกภาพคนเข้าออกภายในงาน เป็นการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในงาน หวั่นเกิดเหตุร้ายภายในงาน โดยวางกำลังกระจายโดยรอบภายในงานและกำหนดให้มีทางเข้าออกทางเดียว จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจคอยคัดกรองและตรวจรถทุกคันที่จะเขามาภายในงานพร้อมทั้งตรวจสอบประวัติอาชญากรและหมายจับต่อทุกคนที่เจ้ามาร่วมงาน และมีการตั้งจุดตรวจค้นบริเวณถนนภายในซอยวัดมหาวงษ์ก่อนที่ทางเข้าวัดประมาณ 500 เมตรเพื่อตรวจค้นกลุ่มบุคคลที่จะมาร่วมภายในงานฌาปนกิจ นายคิว ที่จะมีขึ้นในเวลา 17.00 น.ในวันนี้
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นผู้ที่เข้ามาในงานได้มีนายสงกรานต์ สุขปราโมทย์ อายุ 18 ปี ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้าในงาน และมีพฤติกรรมต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นตัวพบกับยาเสพติดประเภท 1 (ยาเคตามีน) ที่ห่อปิดไว้ด้วยแบงค์ 20 และซุกซ่อนในกระเป๋าสะพาย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครองและจะขยายผลต่อไป
ขณะที่ นาง สนธยา วาสนา มารดาของนายคิว ผู้ตาย ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงทำใจไม่ได้และไม่อยากให้สัมภาษณ์สื่ออีก หลังจากมีกระแสโจมดีถึงครอบครัวของตนในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ซึ่งตนยืนยันว่า น้องคิว เองพึ่งเรียนจบปริญญาตรีของมหาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อสามอาทิตย์ก่อนมาเสียชีวิต ที่ผ่านมาก็ช่วยทำมาค้าขายหาเงินเลี้ยงลูกสาววัย 2 ขวบ ตนยืนยันว่าในวันเกิดเหตุ หลังจากน้องคิว กลับมาจากการขายผัก ก็ไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร้านค้าใกล้บ้านจนกระทั่งนายแฮ๊ก โทรมาหานายโป้ง ให้ออกไปช่วย น้องคิว ซึ่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนจึงตามออกไปด้วยจนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว หลังจากที่แม่ทราบเรื่องก็รีบไปที่โรงพยาบาลพอไปถึงก็เกิดการชุลมุนกันขึ้นแล้วซึ่งแม่เองก็พยายามเข้าห้ามและขอให้คุณหมอช่วยปั้มหัวใจต่อจนนาทีสุดท้าย
ส่วนเรื่องทางคดีนั้นเบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยหรือพบกับทางตำรวจแต่อย่างใด ขอจัดงานศพน้องให้แล้วเสร็จก่อนจะเข้าพบตำรวจภายหลังและคงขอให้ตำรวจสอบสวนและเอาผิดในโทษสูงสุดกับผู้ก่อเหตุกับน้องคิวด้วยเช่นกัน
ธนวัต นาคขำ / ศราวุธ คงสินธ์ ผู้สื่อข่าว จ.สมุทรปราการ