จากกรณีชาวบ้านฮือฮา พบต้นเชียงยักษ์ ขนาด22คนโอบ อายุมาก กว่า100ปี ที่บ้านกกเต็น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของ อ.ด่านช้าง
ล่าสุดวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่จุดดังกล่าว พบกับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังยืนถ่ายภาพคู่กับต้นเชียงยักษ์ที่มีขนาดมหึมา โดยต้องใช้คนถึง22 คน จึงสามารถโอบต้นเชียงดังกล่าวได้รอบ โดยนายเสน่ห์ คงกษัตริย์ อายุ57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.15 บ้านกกเต็น กล่าวว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้คนรู้จักต้นเชียงยักษ์ คือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของตนเป็นคนถ่ายภาพต้นไม้ดังกล่าวไปลงในโซเชียล จนผู้คนให้ความสนใจ
ซึ่งต้นเชียงต้นนี้มีอายุเก่าแก่มาก ตั้งแต่ตนจำความได้ก็เห็นต้นเชียงต้นนี้สูงตระหง่านอยู่คู่หมู่บ้านแล้ว และที่ตรงนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าบ้านซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในหมู่บ้านนับถือ และที่สำคัญตอนนี้ทุกคนในชุมชนกำลังเสนอเรื่องให้พัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของ อ.ด่านช้าง ทางผู้นำชุมชน และชาวบ้านได้ประชุมเพื่อจะทำต้นเชียงยักษ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ และมีแนวคิดว่าจะสร้างตลาดย้อนยุควิถีชีวิตของชาวบ้าน “ลาวครั่ง” เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของ อ.ด้านช้าง และแวะมาเยี่ยมชมต้นเชียงยักษ์อีกด้วย
ด้านนาย ราเชนทร์ ทรดี อายุ32ปี หนึ่งในนักท่องท่องที่เดินทางมาจาก กทม. กล่าวว่าว่า หลังตนได้ทราบข่าวก็พาครอบครัวมาท่องเที่ยว รู้สึกตกใจกับขนาดของต้นเชียงยักษ์มาก เพราะมีขนาดใหญ่ ร่มรื่นและมีความสุขกับการท่องเที่ยวในครั้งนี้
วัฒนพล มัจฉา ผู้สื่อข่าว จ. สุพรรณบุรี
