ชาวบ้านโคกสำโรง ลพบุรี สุดทนรวมตัวกันขับไล่พระลูกวัด พฤติกรรมไม่เหมาะสมออกใบฎีกาเรี่ยไรเงินมาใช้ส่วนตัว
ชาวบ้าน ต.หนองแขม อ.โคกสำโรง ลพบุรี ร่วมกันกันขับไล่พระลูกวัดที่พวกตนมีจิตศรัทธาได้ทำบุญใส่บาตรทุกวัน หลังจากที่ตรวจสอบพบว่าพระนอกรีตได้มีการออกใบฎีกาเรี่ยไรรับเงินจากชาวบ้านมาใช้ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองป้องกันดูแลความสงบเรียบร้อย ชาวบ้านยื่นคำขาดภายใน 7 วันต้องออกจากวัดไป
โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 63 นายอุเทน สุขสว่าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ตำบลหนองแขม อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยชาวบ้านประมาณ 50 คน ได้ออกมารวมตัวกันที่ ลานวัดโพธิ์ชราราม ต.หนองแขม เพื่อขอพบกับพระลำเพย อนฺงคโณ อายุ 61 ปี พระลูกวัด หนองแขม โดยได้นิมนต์ออกมาจากกุฏิที่สร้างไว้อย่างหรูหรากว่า 200,000 บาท โดยมีรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัย 92 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองแขมร่วมรับฟังกับชาวบ้าน
สืบเนื่องจากชาวบ้าน คณะกรรมการวัด และไวยาวัจกร ได้ตรวจสอบพบว่าทางพระลำเพย ได้มีการออกใบฎีกาเรี่ยไรอ้างหาเงินบูรณะปฎิสังขรณ์วัด แต่กลับไม่ทำตามจุดประสงค์ของของการเรี่ยไร นำเงินที่ได้รับมาใช้ส่วนตัว สร้างกุฎิหรูโดยไม้สนใจคำคัดค้านของรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัยชรา และพระลูกวัดด้วยกัน ที่ตักเตือนถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งทางคณะกรรมการวัดได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองป้องกัน อ.โคกสำโรง มาร่วมสังเกตการณ์ บันทึกข้อตกลงและรักษาความสงบเรียบร้อย โดยทางพระลำเพย ที่ถูกกล่าวอ้าง ไม่ขอตอบ และไม่ได้ตอบโต้ถึงเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียน
ทั้งนี้ทางคณะกรรมการวัดได้นิมนต์พระครูธรรมธรธนดล สุวรรณโณ เจ้าคณะตำบลหนองแขม อ.โคกสำโรง ลพบุรี เพื่อร่วมในการพิจารณาข้อเรียกร้องของชาวบ้านในครั้งนี้ ซึ่งทางชาวบ้านในพื้นที่ ที่ได้ทำบุญที่วัดดังกล่าวได้มีมติเดียวกันว่า ขอให้พระลำเพย ได้ย้ายออกวัดหนองแขมไปจำวัดที่อื่น โดยได้ให้ระยะเวลาในการหาวัดใหม่ และเก็บของส่วนตัวย้ายออกไปภายใน 7 วัน พร้อมกันนี้ก็ได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นบัญชีของวัดว่ามีส่วนไหนที่พระลำเพยแอบถอนออกไปหรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง อ.โคกสำโรง ได้จัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยให้ทุกฝ่ายได้ลงชื่อไว้เป็นพยานหลักฐาน สร้างความพอใจให้กับชาวบ้าน ต่างแยกย้ายเดินทางกลับด้วยดีโดยไม่มีเหตุการณ์ โดยมีชาวบ้านบางรายยังเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า พระลำเพย ช่วงกลางดึกจะมีสีกาเข้ามาในกุฏิอยู่กันสองต่อสองเป็นประจำ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนจึงไม่สามารถเอาผิดหรือดำเนินการในเรื่องนี้ได้ อีกทั้งมีชาวบ้านกล่าวว่า พระลำเพย เคยถูกขับออกจากวัดหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี มาแล้วในความผิดลักษณะเดียวกันนี้
กฤษณ์ สนใจ ผู้สื่อข่าวจังหวัดลพบุรี
