วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้เสียหาย ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุงหลังได้รับ
การร้องเรียน เมื่อไปถึงเห็น ลูกๆและญาติของยาย วัย 80 ปี นั่งเฝ้าดูอาการของคุณยายที่นอนให้น้ำเกลืออยู่
ภายในบ้านเพราะร่างกายอ่อนเพลียด้วยความห่วงใย หลังจากที่คุณยาย ถูกชายอายุประมาณ 50 กว่าปี ใช้อุบาย
ล่อล่วงไปข่มขืนภายในบ้านที่กำลังก่อสร้างกลางป่าสวนปาล์ม บ้านทุ่งจำปา หมู่ที่ 10 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.
พัทลุง เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 21กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา
บุตรสาวคนกลางซึ่งเป็นผู้ดูแลยาย วัย 80 ปี เล่าว่า ปกติยายเป็นคนขยัน เที่ยวเก็บพืชผักริมรั้ว ปลอดสารพิษขายในตลาดนัดใกล้บ้านทุกวันศุกร์ ส่วนในวันที่ไม่มีตลาดนัด ก็จะทำข้าวต้มมัด และต้ม ข้าวเหนียวห่อใบกะพ้อ เร่ขายตามร้านขายข้าวแกง บริเวณจุดพักรถสี่แยกนาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งในวันเกิดเหตุ คุณ ออกไปจากบ้านเพื่อไปขายข้าวต้มมัด และข้าวเหนียวต้ม ในช่วงเวลาประมาณ 10 โมง กว่า ๆ ตามปกติ จนกระทั่งมาทราบอีกที่ว่า ผู้เป็นแม่ ถูกคนล่อลวงไปข่มขืน ตอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตามที่บ้าน
ในขณะที่คุณยาย เล่ากับทีมข่าวฟังว่า ในวันเกิดเหตุ ขณะที่ตนเองกำลังเร่ขายข้าวต้มมัด และข้าวเหนียวต้ม อยู่บริเวณร้านขายข้าวแกงครัวลุงใจ ก็ได้เจอกับชายวัย 50 กว่า ปี ซึ่งนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้าน ได้พยายามชวนคุย และอ้างว่ารู้จักนายเด่น และอีกหลายคนในหมู่บ้านของตน พร้อมบอกว่า ตอนเล็ก ๆ ตนเคยอุ้ม เขาบ่อย ๆ พูดคุยกันอยู่นาน จนกระทั่งชายคนดังกล่าวบอกว่า จะเหมาขนมของตน โดยเหมาทั้งหมด จะจ่ายเงินให้จำนวน 2,000 บาท แต่ ตนต้องซ้อนท้าย จยย เขานำขนมไปส่งบ้านญาติ ในพื้นที่ ต.ท่าแค ตนจึงซ้อน จยย .ชายคนดังกล่าวไป แต่แทนที่ชายคนดังกล่าวจะพาไปบ้านญาติของเขา กลับขับ จยย เลี้ยวเข้าไปในสวนปาล์มน้ำมัน แล้วจอดรถตรงบ้านที่กำลังก่อสร้างในป่าสวนปาล์มน้ำมัน ตนเห็นท่าไม่ดี จะวิ่งหนี แต่ชายดังกล่าว ยึดคอเสื้อตนไว้พร้อมลากเข้าไปในบ้าน แล้วลงมือข่มขืน โดยขณะข่มขืน ได้ใช้มือปิดปากตนไว้ พร้อมข่มขู่ ไม่ให้ขัดขืนไม่เช่นนั้นจะทำร้ายร่างกาย
ยายวัย 80 ปี บอกด้วยว่าขณะเกิดเหตุ ตนรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร โดยหลังข่มขืน
เสร็จชายคนดังกล่าวได้เอาเงินในกระเป๋าซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายของและเตรียมไว้ทอนให้กับลูกค้า ไปเกือบ
2,000 บาท ก่อนจะขับรถ จยย หลบหนีไป ส่วนตนก็ได้วิ่งลัดทุ่งนาไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่
ชาวบ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ
ยายบอกกับทีมข่าวว่าตอนนี้รู้สึก เจ็บไปทั้งตัว และอยู่ด้วยความหวาดระแวงไม่กล้าที่จะอยู่บ้านเพียงลำพัง
พร้อมยืนยัน ว่าจำหน้าคนก่อเหตุได้อย่างแม่นยำ
ในขณะที่เจ้าของร้านขายข้าวแกงครัวลุงใจ จุดเริ่มต้นการเกิดเหตุ เล่าว่าชายคนดังกล่าวมาทานข้าวที่ร้านตลอด แต่ไม่บ่อย และทุกครั้งที่มาที่ร้าน จะมีลักษณะคล้ายคนเมามาทุกครั้ง ส่วนในวันเกิดเหตุ เห็นยายกับชายคนดังกล่าว นั่งคุยกัน ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้าน นานเกือบชั่วโมงและชายคนดังกล่าว ยังเลี้ยงข้าวยายด้วย แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคนออกจากร้านไปตอนไหน เพราะ เป็นช่วงเที่ยง ลูกค้าในร้านเยอะ
อย่างไรก็ดีกลุ่มญาติของยาย ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วน
ส่วนทางด้านของคดี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบกล้องวงปิด พร้อมได้หลักฐาน เป็นภาพตอนที่ยาย
ซ้อน.จยย ชายคนดังกล่าว ออกไป และกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำประจักษ์พยานทุกปากเพื่อ
หาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป