ตำรวจ คุมตัวมือสังหารวินจยย.รับจ้าง ทำแผนรับสารภาพปมแค้นหยามศักดิ์ศรี
จากกรณีเมื่อเวลา 12.00 ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน ประกบยิงวินจักรยานยนต์รับจ้างระยะเผาขน จนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม แล้วหลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่บางแสน จ.ชลบุรี กระทั่งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนไล่ล่าแกะรอยไปจนได้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองราย คือตัวผู้ขับขี่และมือปืนผู้ลั่นไกสังหารเหยื่อ นอกจากนี้ยังติดตามของกลางเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่เกิดเหตุ อาวุธปืน และยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองรายคือนายมนัส อิ่มหน่ำ อายุ 39 ปี และนายนิพนธ์ ปานทอง อายุ 45 ปี ไปชี้จุดเกิดเหตุ ทำแผนพร้อมประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่บริเวณที่ผู้ก่อเหตุได้เฝ้าดูผู้ตายที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย แล้วติดตามกระทั่งถึงจุดที่ลั่นไกสังหารเหยื่ออย่างอุกอาจที่บริเวณด้านหลังประตูโรงเรียนเมืองพัทยา 8
โดยนายนิพนธ์ เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะ มาประกบแล้วนายมนัส ได้ชักอาวุธปืน 11 ม.ม. ขึ้นมาแล้วลั่นไก 1 นัด คมกระสุนเข้าที่เบ้าตาของนายประทุม สอาดนัก อายุ 47 ปี วินจยย.รับจ้าง จนเสียชีวิตคาที่ แล้วเร่งเครื่องหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักภายในซอย 5 ธันวา ก่อนจะหนีไปกบดานในพื้นที่บางแสน จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
ส่วนชนวนเหตุในการก่อเหตุอย่างอุกอาจในครั้งนี้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ได้เปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพว่าเกิดจากผู้ก่อเหตุ และผู้ตายได้ตั้งวงดื่มสุราด้วยกัน แล้วถูกผู้ตายพูดจาดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย จนผู้ก่อเหตุทนฟังคำถากถางไม่ได้ ทำให้เกิดความคับแค้นในใจ จึงวางแผนเฝ้าติดตามเมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาลั่นไกสังหารเพียงนัดเดียวเข้าที่ศีรษะ ปลิดชีพนายประทุม เพื่อสร้างปมแค้นคาใจดังกล่าว
เบื้องต้น ได้ควบคุมตัวนายมนัส อิ่มหน่ำ อายุ 39 ปี และนายนิพนธ์ ปานทอง อายุ 45 ปี ส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ทิวากร กฤษมณี / บรรยงค์ จันทร์รอด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ชลบุรี