นาทีชีวิต!!ลมพายุพัดถล่มถอนรากถอนโคนสวนยางกลางดึกสวนทุเรียนหลายสิบไร่พัง
(4 ส.ค.) นางสาวพัชรี ฟุ้งเฟื่อง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่28 หมู่7 ต.ทุ่งสัง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผย ถึงนาทีระทึกเฉียดตายจากกรณฯลมพายุพัดถล่ม “ลมหัวด้วน” เมื่อเวลา 01.00 น.กลางดึกที่ผ่านมาว่า ในขณะที่ตนกำลังกรีดยางในสวน ได้ยินเสียงลมพัดมาแต่ไกล และมีเสียงต้นไม้หักโค่นล้มดังโครมครามมาเป็นทาง จึงหันไปมองฝ่าความมืดพบว่าเป็นลมหัวด้วนขนาดใหญ่พัดถล่มสวนยางหักโค่นล้มระเนระนาด
โดยความแรงของลมหัวด้วนสามารถพัดถอนรากถอนโคนต้นยางพาราขึ้นมาทั้งต้น และหอบปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ ในขณะที่บางต้นขาดกลางต้นลอยละล่องเฉียดศรีษะตนไปหวุดหวิด เมื่อตั้งสติได้รีบวิ่งหลบกิ่งไม้ ต้นไม้ ที่ปลิวว่อนรีบวิ่งหนีกลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงหน้าบ้านพบมีต้นยางพาราขนาดใหญ่ ล้มพาดสายไฟแรงสูง ลงมากองบนหลังคาบ้านจนได้รับความเสียหายยับเยิน
นายสมหมาย อุบลกาญจน์ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่77 หมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ใกล้กับบ้านนางสาวพัชรี ฟุ้งเฟื่อง ลมพายุ หรือลมหัวด้วนสร้างความเสียหายให้กับสวนยางพารา สวนทุเรียนยับเยินนับ 10 ไร่ จากนั้นได้นำสื่อมวลชนไปสำรวจความเสียหายในสวนยางพาราหลังบ้านที่ถูกลมหัวด้วนพัดหักไปทั้งสวน ต้นยางพารา อายุ 30 ปี เสียหายหมดนับ 10 ไร่ และมีต้นทุเรียนหักตีหลังคาบ้านพังเสียหายเช่นกัน และพบว่ามีสวนยางพาราของชาวบ้านนับสิบรายได้รับความเสียหายหลายสิบไร่เช่นกัน โดยล่าสุดนายภัคพงษ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายเพื่อรายงานให้ทางหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทราบตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตามได้รับแจ้งว่ามีหลายหมู่บ้านที่ประสบภัยลักษณะเดียวกัน ต้นยางพารา ต้นทุเรียนหักโค่นทั้งสวน ต้นไม้ใหญ่ส้มทับบ้าน ทับเสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า ขวางถนน เป็นต้น โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังทยอยเคลียร์ในแต่พื้นที่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
