แรงงานต่างด้าว

แรงงานต่างด้าว “ยาขม หรือขนมหวาน” ของขบวนการค้ามนุษย์ แนวชายแดนแผ่นดินสยาม

แรงงานต่างด้าว “ยาขมหรือขนมหวาน” ของขบวนการค้ามนุษย์ แนวชายแดนแผ่นดินสยาม

ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐ และฝ่ายความมั่นคงยัง ไม่เข้มแข็ง  ปล่อยให้ข้าราชการ ผู้มีอิทธิพล ฉกฉวยโอกาสหารายได้จากแรงงานต่างด้าว ที่เดินทางเข้า-ออก ในราชอาณาจักรไทย  ตามช่องทางแนวตะเข็บชายแดนทุกแห่งของประเทศ ที่มีแนวเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา พม่า ลาว…. ที่น่าจับตามอง และติดตามอย่างใกล้ชิดในขณะนี้ ก็คือ แนวเขตติดต่อทางด้าน จว.จันทบุรี ถ้าพ่อเมือง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ  ทหาร ตำรวจ  ฝ่ายความมั่นคง ไม่เข้มแข็ง ”ความมั่นคง”ก็ล้มเหลว

เรื่องเกิดใหม่ สดๆ ร้อน ๆ ของขบวนการค้ามนุษย์  เมื่อเจ้าหน้าที่ ร้อย 524 ชค.2  ทพ.นย.บ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ. จันทบุรี ไล่ล่ารถเก๋งฮอนด้า แจ๊ส ทะเบียน ต-1901 กทม.ป้ายแดง จนสามารถสกัดจับไว้ได้ พบว่า ส.ต.ต.พงศ์พันธ์ อินทร์คงรอด ผบ.หมู่งานควบคุมจราจร วิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร. นำพาแรงงานต่างด้าว หญิง 3 คน ชาย 5 คน เด็ก 1 คน  โดยมีการนัดแนะกันให้มารับบริเวณสามแยกเข้าด่านบ้านแหลม จนถูกจับกุมในที่สุด

แล้วผู้ต้องหาทั้งหมดหายไปไหนไม่มีการส่งดำเนินคดี จึงได้ตรวจสอบเบื้องต้น ผกก. สภ.บ้านแปลง อ.โป่งน้ำร้อน ยืนยันว่าฝ่ายทหารไม่ได้นำส่งตัวผู้ต้องหา ไม่มีบันทึกจับกุม และไม่มีการลงบันทึกประจำวัน ซึ่งแนวทางการปฏิบัติโดยทั่วไป เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องสงสัย หรือผู้กระทำความผิด ชุดจับกุมต้องทำรายงานพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด รายชื่อ เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนตามข้อกล่าวหาของชุดจับกุมในเบื้องต้น

ทหารพราน กับ ตำรวจ ขัดแย้งในหลักฐาน ต่อเมื่อทหารพรานได้บันทึกภาพหมู่ ผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าไปรับตัวออกมาจากกองร้อยทหารพรานที่ 524 ชค.2 เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 11 ส.ค.2563 และยืนยันว่าได้มี ด.ต.จันดี อินเต็ม เป็นผู้เข้าไปรับผู้กระทำความผิดออกมา  แล้วผู้กระทำความผิดหายไปไหนหมด ไม่มีหลักฐานการจับกุม และบันทึกประจำวัน ที่ สภ.บ้านแปลง  พนักงานสอบสวน ร้อยเวร 20 ไม่ทราบเรื่องนี้

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดา  เป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้มาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19   คนต่างประเทศจะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย มีข้อกำหนด ต้องปฏิบัติตามกระทรวงสาธารณะสุขที่กำหนดไว้ เบื้องต้นต้องกักตัว 14 วัน แต่ปัจจุบันแรงงานกัมพูชา หลบหนีเข้ามาตามช่องทางต่าง ๆ จำนวนมาก โดยไม่ผ่านการคัดกรอง  ทำให้รัฐบาลหวั่นว่า การแพร่ระบาด รอบ 2 จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าภาครัฐ เอกชน ประชาชน ขาดความตระหนักในเรื่องนี้

ระบบการตรวจสอบ ไม่รอบคอบ มีช่องโหว่ให้เจ้าหน้าของรัฐ ทุจริต คอรัปชั่น โดยเฉพาะ ขั้นตอนการปฎิบัติ  บันทึกการรายงานจำนวนแรงงานที่ถูกจับกุม การผลักดันออกตามช่องทางด่านต่าง ๆ  เพราะเท่าที่ทราบมาว่า จำนวนที่จะต้องผลักดันออกตามหลักฐานนั้น มีจำนวนน้อย แต่แรงงานที่นำส่งออกไปนั้น จำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว ต้องฝากผู้ดูแลด่านต่าง ๆ ช่วยตรวจสอบ เก็บหลักฐานการผลักดันออก เพื่อมายันกับหลักฐานทางราชการ ที่รายงานกันขณะนี้

ขบวนการค้ามนุษย์ ของคนในเครื่องแบบ ยังฟักตัวมากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นช่องทางได้เงินแบบไม่ต้องลงทุน เนื่องจากช่วงนี้ทหารพรานนาวิกโยธิน สกัดกั้น เส้นทางการขนบุหรี่เถื่อน สายหลักบ้าน บึงชนัง ทำให้เหลือบทางเศรษฐกิจ และเหลือบแผ่นดินเปลี่ยนวิถีใหม่ ด้วยการหาช่องทางหากินกับแรงงานต่างด้าว และนับวันจะขยายเครือข่ายมากยิ่งขึ้น เรื่องนี้ ประชาชนธรรมดาทำไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล หรือเจ้าหน้าของรัฐในพื้นรู้เห็นเป็นใจ ร่วมทำกันเอง

ขณะนี้ทหารพราน ตรวจเข้ม ซุ่มจับแรงงานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวนมาก แล้วนำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านแปลง ดำเนินการตามกฎหมาย ผลักดันออกตามด่านชายแดน….ในทางตรงกันข้ามก็มีขบวนการค้ามนุษย์ รู้เห็นกับเจ้าหน้าที่นำพาแรงงานที่ต้องการกลับบ้าน มาส่งไว้ตามจุดต่าง ๆ  เพื่อให้แฝงตัวกับผู้ที่ถูกจับกุม ในการนำส่งข้ามแดน ด้วยการเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายหัว

จุดโฟกัส ที่น่าจับตามองขบวนการค้ามนุษย์ อ.โป่งน้ำร้อน คงไม่พ้นข้างเมรุ วัดบ้านแปลง ที่ไม่ห่างกับ สภ.บ้านแปลง มีรถนำแรงงานมาปล่อยทิ้งไว้ เป็นศูนย์รวม แล้วมีคนไปรับตัวมา  เรื่องนี้ไม่หลุดพ้นสายตาของประชาชน ที่คอยดูพฤติกรรมการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ แบบรันทดใจ อีกทั้งรู้ตัวละครทั้งหมดว่ามีใครบ้าง ใครมีหน้าที่อะไร สุดท้ายเมื่อสามารถนำแรงงานผลักดันพ้นแผ่นดินไทยไปได้อย่างปลอดภัย ก็จะมีการแบ่งปันผลประโยชน์กัน

ลึกไปกว่านั้น ช่วงมาตรการโควิด 19 ในแต่ละวันจะมีรถขนแรงงานต่างด้าวมาส่งแหล่งรวม ด้านหลังตึกทำการแห่งหนึ่ง ….เพื่อรอขึ้นรถไปส่งยังด่าน”สวนส้ม” ซึ่งด่านนี้มีทหารพรานอยู่เพียงเล็กน้อย และคงไม่ล่วงรู้ถึงกลโกง วิธีการว่าการผลักดันแรงงานออกควรจะมีหลักฐานอะไรบ้างมาแสดง จะได้รู้ว่า ในจำนวนนี้ผลักดันถูกต้องกี่คน  และส่วนที่แฝงตัวมาด้วย กี่คน

เรื่องนี้ต้องขอฝาก ทหารพราน นาวิกโยธิน ช่วยให้ความรู้เรื่องกฎหมายกับข้าราชการ อาสาสมัคร ในเรื่องขึ้นตอนการตรวจสอบ เก็บหลักฐาน อย่างเคร่งครัด เพื่อนำไปตรวจสอบกับเอกสารนำส่ง กับ สภ.บ้านแปลง  ว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อหยุด”ขบวนการค้ามนุษย์” แนวชายแดนให้สิ้นซากเสียที และทราบมาว่า แรงงานแฝงต้องเสียค่าใช้จ่ายหัวละ 300 บาท ในการนำส่งถึงด่านอีกด้วย จริงหรือไม่ ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้กันด้วยครับ

    “มังกร  บูรพา”

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม