ทหารพราน นย.ชมรมสตรองต่อต้านทุจริต ชาวบ้านจันทบุรี ทวงคืน “ป่าทับปะติ”ผืนป่าต้นน้ำเกือบ 400 ไร่ ยังไร้วี่แวว
ชาวหนองบอน โป่งน้ำร้อน จันทบุรี สุดเอือมระอา รวมพลังทหาร ราษฎร์ ผู้นำชุมชน ชมรมสตรองต่อต้านทุจริต เดินหน้าเต็มตัว ต่อต้าน คัดค้านนายทุนบุกรุก แผ้วถางผืนป่าต้นน้ำ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว มายาวนาน เกือบ 400 ไร่ ยังไม่สำเร็จ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีประชาชนบ้านหนองบอน หมู่ที่ 1 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จำนวนมาก ได้มาร่วมประชุม วางแผน หารือกันในการเดินหน้าทวงคืนผืนป่าต้นน้ำบ้านหนองบอน ที่ถูกนายทุนบุกรุก แผ้วถางทำประโยชน์ส่วนตัว ณ ห้องประชุมริมน้ำ ที่ทำการชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4(ชค.4) อ.โป่งน้ำร้อน โดยมี นาวาเอกนฤมิตร สุขสมิติ หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานที่ 4 ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และชมรมสตรองต้านทุจริตจันทบุรี พร้อมสื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์
การประชุมครั้งนี้เพื่อหาแนวทางทวงคืนพื้นป่าต้นน้ำภายในพื้นที่หมู่1 ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของชุดควบคุมทหารพรานที่ 4 โดยก่อนหน้านี้หลายปีมีนายทุน และชาวบ้านบางกลุ่มได้เข้าบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำสวนผลไม้บนเนื้อที่เกือบ 400 ไร่ เจ้าหน้าที่พยายามเข้าทวงคืนหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สำเร็จ พบหลักฐานใช้เครื่องจักกลหนัก ขุด ปรับพื้นที่บุกรุกแผ้วถางอย่างชัดเจน มีการเดินท่อส่งน้ำ เพื่อทำการเกษตร ทั้งที่เป็นเขาสูงชัน และเป็นแหล่งกำเนิดน้ำ หรือป่าต้นน้ำ ที่ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์มายาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษสืบทอดกันมา
นาวาเอก นฤมิตร สุขสมิติ กล่าวว่าได้มีการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อ 31 กรกฎาคม 2563 จึงได้ส่งข้อมูลตรวจสอบบุคคลเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินที่ยังไม่มีการได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์บริเวณพื้นที่ป่า ทับปะติ ให้ ส.ป.ก.จันทบุรี ทราบ และได้ขอให้ ส.ป.ก.จันทบุรี ดำเนินการทำหนังสือแจ้งเตือนบุคคลเกี่ยวข้องในพื้นที่ดังกล่าว ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ พร้อมมอบหมายให้ตำบลคลองใหญ่บูรณาการร่วมกับ ส.ป.ก.และหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันจัดทำโครงการฟื้นฟูผืนป่าต้นน้ำทับปะติ พร้อมทั้งขออนุญาต ส.ป.ก. ปลูกป่าให้แล้วเสร็จ และเริ่มปลูกป่าได้ตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
นายสุทิน หัสนาม ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีผู้เสนอผลประโยชน์ให้ ตัวเอง และประชาชนในพื้นที่ ถ้าได้ผลผลิตทางการเกษตร โดยแลกเปลี่ยนขอให้เซนเอกสารเพื่อการออกเอกสารสิทธิ์ครอบครอง จึงไม่ยอมเซนให้ ขณะนี้ที่ดิน จำนวน 369 ไร่ จึงเป็นเพียงรูปแปลงแบบลอยๆ เท่านั้น และชาวบ้านร้อยเปอร์เซ็นต์ยกมือโหวตต้องการป่าต้นน้ำคืน ซึ่งกลุ่มนายทุน เคยลั่นรับปากว่าจะตัดต้นทุเรียนทิ้ง ยอมออกจากพื้นที่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่จนป่านนี้ก็ยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะนี้ผืนป่าทับปะติ ที่ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ พร้อมแนวร่วมต่อต้านการบุกรุก ยึดครองที่ดิน ส.ป.ก.ทำประโยชน์ทางการเกษตรนั้น ได้มีผู้ถือครองไปแล้ว 12 แปลง รวมที่ดิน จำนวน 369 ไร่ บางรายได้ติดต่อขายให้นายทุนต่างประเทศซื้อที่ดินทำประโยชน์และขณะนี้ทางภาครัฐยังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกได้ ทำให้โครงการปลูกป่าฟื้นฟูเขาทับปะติ ต้องหยุดติไป ทางด้าน ส.ป.ก.จันทบุรี ยังไม่ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของประชาชน และข้อกฎหมายแต่อย่างใด ทั้งที่กลุ่มนายทุนที่บุกรุกถือครองผืนป่าแปลงนี้เคยฟ้องร้องศาลปกครอง เพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว แต่ศาลยกคำร้อง
ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน