เหยื่อนางบุญมา โผล่รายที่ 5 โอดครวญช่วยนำเงินมาคืน
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2563 จากกรณีที่สื่อมวลชนหลายแขนงมีการนำเสนอเรื่องราวของนางบุญมา แก๊งต้มตุ๋น หลอกแต่งงานกับชายหลายรายก่อนเชิดเงินหนี และมีการหลอกยืมเงินโดยมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
นายสมหมาย สอนเตจา อายุ 48 ปี เปิดเผยว่า ตนเองได้ถูกนางบุญมา ชักชวนร่วมลงทุนสร้างฟาร์มเลี้ยงวัวร่วมกัน โดยนางบุญมาอ้างว่า มีวัวจำนวน 120 ตัว แต่ยังขาดสถานที่หรือฟาร์มในการเลี้ยง ซึ่งมีการพูดคุยกันว่าให้ตนเองออกเงินสร้างฟาร์มก่อน และตนจะนำวัว 120 ตัวมาเลี้ยง หากอนาคตขายวัวได้ จะมีการแบ่งปันผลประโยชน์ให้กันและกัน โดยตนเองได้ทำการสร้างคอกวัวหมดไปจำนวน 56,000 บาท และนางบุญมา ก็ได้มาเอาเงินสดจำนวน 30,000 บาท ทอง 1 สลึง โดยมีการอ้างว่าจะนำไปทำเรื่องขายที่ดินซึ่งจะมีเงินมาลงทุนหลายล้าน ตนเห็นว่าเมื่อลงทุนร่วมกันแล้วมีความเชื่อใจจึงให้เงินดังกล่าวไปปรากฏว่า เงินที่ให้ไป จนหลายเดือนก็ไม่เห็นนางบุญมานำวัวจำนวน 120 ตัวที่กล่าวอ้าง นำมาไว้ในคอกที่ตัวเองสร้างตามที่ตกลงกันไว้ ตนจะคิดว่าน่าจะถูกนางบุญมาหลอกอย่างแน่นอน จึงมีการแจ้งความและทวงถามอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง โดยมีการอ้างนู่นอ้างนี่จนสุดท้ายนางบุญมาก็หายไปอย่างลอยนวล
นายสุพล ชะนะภู อายุ 78 ปี เปิดเผยว่า จากกรณีนางรัตนาพร ซึ่งเป็นลูกสาว ได้มีการเซ็นมอบอำนาจโฉนดที่ดิน ภบท 5 บนเนื้อที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง ให้กับลูกพี่ลูกน้อง เนื่องจากว่าตนเองเตรียมที่จะเดินทางไปต่างประเทศกลัวว่าจะมีปัญหาเรื่องของเอกสาร จึงได้มีการเซ็นมอบอำนาจเพื่อที่จะได้นำที่ดินไปขาย แต่ทราบเนื่องต่อมา ลูกพี่ลูกน้องซึ่งมีการจดทะเบียนกับนางบุญมา ได้นำที่ดินจำนวน 2 แปลงไปจำไว้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นเงินจำนวน 4 แสนบาท โดยมีการผ่อนชำระเดือนละ 15,000 บาท โดยที่ลูกสาวคือนางรัตนาพร ก็ได้มีการผ่อนจ่ายเองทุกงวด และต้องการที่จะหาเงินมาปิด แต่ลูกพี่ลูกน้องกลับไม่ยอมเซ็นต์เอกสารมอบอำนาจกลับมาให้ลูกสาว แต่อ้างว่าจะเซ็นใบมอบอำนาจให้กับพ่อแทน โดยทุกวันนี้ก็ยังไม่มีการเซ็นเอกสารใดๆโดยมีการบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนเองกลัวว่าจะถูกนางบุญมาครอบงำ เนื่องจากว่านางบุญมาเป็นพวกต้มตุ๋นหลอกลวง และอยากขอร้องให้รีบมาดำเนินการให้เรียบร้อยเพราะไม่อยากให้มีปัญหาทั้งเรื่องของครอบครัวและเรื่องส่วนตัว.
ภาพ-ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมา
