สุโขทัย มวลน้ำทะลักพังคันดินกั้นน้ำริมตลิ่งแม่น้ำยม จนพังทลาย 4 จุด น้ำไหลบ่าเข้าสู่บ้านเรือนราษฏร-พื้นที่ทางการเกษตร ขณะที่จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานะการณ์อย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ 05.00 น.วันนี้ (23 ส.ค.)เกิดเหตุคันดินริมตลิ่งบริเวณถนนเลียบแม่น้ำยมพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านวังหิน และหมู่ที่ 7 บ้านบางสงฆ์ ต.ปากแคว อ.เมือง จ.สุโขทัย พังทลายลงจากการกัดเซาะของกระแสน้ำจากแม่น้ำยมที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าเข้าสู่พื้นที่บ้านเรือนราษฏรและขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ทางการเกษตร
โดยนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยนายธนพงษ์ บุญเรือง นายอำเภอเมืองสุโขทัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าช่วยเหลือราษฏรในพื้นที่แล้ว เบื้องต้นมีบ้านเรือนราษฏรได้รับผลกระทบประมาณ 200 หลังคาเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ สภาพที่เกิดเหตุคันดินริมตลิ่งที่พังทลายพบว่า เป็นบริเวณที่ก่อสร้างพนังเขื่อนกั้นแม่น้ำยมที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จเป็นระยะทางยาว 1,300 เมตร ของสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.สุโขทัย โดยมีจุดพังทลายของคันดินถึง 3 จุด ขนาดความกว้างมากน้อยต่างกันทั้งขนาด 10 เมตร และ 30 เมตร ในพื้นที่ติดต่อกันของหมู่ 1 และหมู่ 7 ต.ปากแคว ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเกิดเหตุพังทลายจากคันดินริมตลิ่งแม่น้ำยมอีก 1 จุด ในพื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านวังกุ้ง ต.ปากพระ อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยตามรายงานพบว่าส่วนใหญ่มวลน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 250 ไร่
ด้านจังหวัดสุโขทัย โดยนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำยมให้เตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่งโดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารทางราชการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดพร้อมสั่งการให้หน่วยงานทางด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างทันต่อเหตุการณ์หากเกิดภัยพิบัติ