ดร. เอ สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.เขต 8 ชลบุรี โวย ร่างผังเมืองสัตหีบโบราณ ยังขีดกรอบเป็นพื้นที่สีเขียว และสีขาว ไม่รองรับแผนพัฒนาพื้นที่ EEC ภาคตะวันออก ประชาชนไม่ได้ประโยชน์สูงสุด วอนปรับใหม่ ให้สอดคล้องกับความเจริญ
จากกรณีที่ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ หรือ ดร.เอ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 8 จ.ชลบุรี ได้เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ระหว่างช่วงปรึกษาหารือต่อประชาชน ได้หยิบยก ปัญหาความเดือดร้อน ตลอดจนความวิตกกังวลของพี่น้องประชาชน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรื่องการจัดทำร่างผังเมืองรวมที่ยังล้าสมัย โดยให้เหตุผลว่า อ.สัตหีบ เป็นอำเภอที่ติดกับทะเลตะวันออก เชื่อมต่อกับ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ถือได้ว่าเป็นอำเภอเดียว ในจังหวัดชลบุรี ที่มีพื้นที่ใกล้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง –พัทยา ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง และ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมต่อกับ 3 สนามบิน อีกทั้งยังมีท่าเรือพาณิชย์ หรือการท่าเรือสัตหีบ ถือว่ามีมิติความพร้อมทั้ง 3 มิติ คือ ทางบก ทางเรือ ทางอากาศ
ในปัจจุบัน ทราบว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้จัดทำร่างผังเมือง อ.สัตหีบใหม่ โดยกำหนดให้พื้นที่ 3 ตำบล มี ต.พลูตาหลวง ต.นาจอมเทียน และต.บางเสร่ เป็นพื้นที่ “สีเขียว” เสียเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึง ต.แสมสาร ซึ่งได้รายได้จากการท่องเที่ยว การประมง กลับกำหนดให้เป็นพื้นที่ “สีขาว” กำหนดเป็นพื้นที่ราชการ ซึ่งหมายความว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีการกำหนดให้ อ.สัตหีบ เป็นพื้นที่ชนบท และเกษตรกรรม ซึ่งไม่สอดคล้องกับ การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ทั้งที่ประชาชนมีความคาดหวังว่า อ.สัตหีบ จะได้รับการพัฒนาให้เท่าเทียม เท่าทันกับพื้นที่อื่น ๆ จะสามารถสร้างรายได้ และส่งเสริมการลงทุนให้กับประเทศโดยรวม
ดังนั้น ส.ส.สถิระ หรือ ดร.เอ จึงใคร่ขอความเมตตาจากท่านประธานผ่านเรื่องนี้ ไปยังกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการเขตนโยบายพิเศษภาคตะวันออก ร่วมกันพิจารณาปรับผังเมือง อ.สัตหีบ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่จะสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับพี่น้อง อ.สัตหีบ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
พัชรพล ปานรักษ์ รายงาน