ชาวอีสานใต้ เตรียมหาข้าวของประกอบ พิธีแซนโฎนตา ในวันแรม 14 ค่ำเดือน 10
วันที่ (10 ก.ย.2563) เทศกาลแซนโฎนตา ของชาวไทยเชื้อสายแขมร์ ก็คือการเซ่นตายาย บูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป จะมีขึ้นทุกปี วันเซ่นก็คือตรงกับแรม14ค่ำเดือน10 เขาเรียกเบ็นทม หรือสารทเขมร ช่วงนี้ชาวบ้านในอ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ก็พากันเตรียมข้าวของไว้ช่วงประเพณีแซนโฎนตา ของชาวอิสานใต้ แต่ในหมู่บ้านชนบท การแซนโฎนตาปีนี้ จะเป็นไปในทางเรียบง่าย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีรายได้ ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและคนตกงานเยอะ ชาวบ้านก็จะหาข้าวของที่มีในชุมชน ตามสวนตามป่าเพื่อเตรียมไว้แซนโฎนตา การจับจ่ายข้าวของในตลาดจะน้อยลงกว่าทุกปี แต่ที่ขาดไม่ได้คือจะมีการวีกอันซอมโดง ก็คือข้าวต้มที่ห่อด้วยใบมะพร้าว และใส้กะทิ ใส้กล้วย ใส้ถั่วดำ แล้วแต่ชอบ แต่ส่วนใหญ่มาแต่โบราณเขานิยมใส้กะทิและกล้วย ซึ่งตอนนี้ก็ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีสวนกล้วย ต้องรีบตัดกล้วยที่แก่แล้วบ่มให้สุก เพื่อให้ทันเทศกาลแซนโฎนตา เพราะชาวบ้านอิสานใต้ คนไทยเชื้อสายแขมร์ ทุกครัวเรือนก็ต้องทำข้าวต้มมัดใบมะพร้าว หรือท้องถิ่นเรียก “อันซอมโดง” และข้าวปลาอาหารคาวหวานและผลไม้ไว้พิธีแซนโฎนตา ใครที่มีสวนกล้วยจะรีบตัดกล้วยมาบ่มไว้ และไว้เซ่นบรรพบุรุษ ที่เหลือกล้วยสุกก็จะขายกันมีรายได้ช่วงนี้ เพราะทุกครัวเรือนก็จำเป็นใช้กล้วย กล้วยน้ำว้าสุกขายในชนบทจะอยู่ราคาประมาณหวีละ25-30บาท ทำให้ชาวบ้านที่ปลูกกล้วยไว้ที่สวนก็รีบเก็บเกี่ยวมีรายได้จากการขายกล้วยในหมู่บ้านชนบทช่วงนี้
และมะพร้าวช่วงนี้ก็มีราคาแพงและหายากส่วนผลไม้ชาวบ้านจะหาตามสวนตนเอง เช่นกล้วย น้อยหน่า เสารส และอื่นๆที่ชาวบ้านปลูกไว้ตามสวนเป็นของเตรียมไว้เซ่น อาหารก็จะมีไก่บ้านที่เขาหาตามหมู่บ้านชนบท บางครอบครัวก็เลี้ยงไว้หลายตัว ก็จะขายให้กันเยอะในช่วงเทศกาลนี้ และบางครัวเขาก็เลี้ยงปลาดุกเลี้ยงกบ ก็สามารถซื้อกันได้หมู่บ้านชนบท แทบไม่ต้องหาจากตลาด ก็ทำให้มีเงินหมุนเวียนในหมู่บ้าน และชาวบ้านก็มีรายได้กัน และอาหารอีกอย่างหนึ่ง ก็คือเห็ดป่า ชาวบ้านเขาได้ เอามานึ่งไว้แช่ตู้เย็น ไว้เป็นอาหารเซ่นไหว้เทศกาลแซนโฎนตา ปีนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่จะหาข้าวของตามสวนตามป่า และอาหารที่หาได้ตามชนบทเป็นหลัก เพื่อลดรายจ่าย ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ที่หลายๆครอบครัวรายได้ไม่ค่อยมี และคนตกงานก็เยอะ จึงต้องประหยัดกันในปีนี้
นางเขียน เจริญศิริ ชาวบ้านในเขตอ.จอมพระ จ.สุรินทร์ เล่าว่าวันนี้ตนเองรีบตัดกล้วยจากสวน จำนวนมากนำมาบ่มไว้ให้ทันเทศกาลแซนโฎนตาที่จะถึงนี้ เหลือเวลาอีก4-5วัน บางส่วนก็ไว้เซ่น และเหลือก็ไว้ขายในหมู่บ้าน ราคากล้วยน้ำว้าก็จะอยู่ประมาณหวีละ25-30บาท พอมีรายได้จากการขายกล้วยที่มีในสวนในช่วงเทศกาลนี้ และก็เก็บน้อยหน่ามาบ่มไว้เตรียมขายด้วยเช่นกัน.
ภาพ-ข่าว : มนตรี เจริญศิริ
เรียบเรียง : เขมชาติ ชุณหกิจขจร