ตำรวจ สภ.แม่ริมเชียงใหม่ รวบพ่อค้าขายอาหารได้รับผลกระทบโควิด 19ขายอาหารไม่ได้คิดสั้นใช้ควงมีดปังตอชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้เงินสดไป 3,000 บาท
กล้องวงจรเปิดภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาริมเหนือ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน๊อกสีดำ สวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ สวมกางเกงขายาสีดำ และสวมถุงมือสะพายกระเป้าข้างสีดำ เดินเข้ามาภายในร้าน ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินอ้อมไปที่เคาน์เตอร์ล้วงมีดปังตอจากกระเป๋าสะพาย จี้พนักงานสาวเพื่อบังคับให้เปิดลิ้นชักเงินและให้หยิบเงินใส่กระเป้าสะพายข้างที่เตรียมมาก่อนจะวิ่งหนีออกจากร้านไป ขี่รถจักรยายนต์หลบหนีไปทางแยกเหมืองผ่า-เลี้ยวซ้ายไปทางวัดเจดีย์สถาน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 25 กันยายน63 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุพนักงานร้านสะดวกซื้อได้เข้าเจ้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. อภิรักษ์ เขื่อนพันธ์ รอง สว. สอบสวน สภ. แม่ริม พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายก่อเหตุได้เงินไปทั้งหมด 3000 บาท โดยชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
กระทั่ง ตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิดพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยฮอนด้าเวฟสีฟ้า 2 กข 883 เชียงใหม่ จึงเข้าตรวจสอบซึ่งเป็นของเพื่อนข้างห้องคนร้าย ก่อนจะสามารถจับกุมนายสุนันทวัฒน์ ไชยปรุง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ตำบล ยม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ได้ที่หอพักภายในหมู่บ้านเหมืองผ่า หมู่ 1 ตำบลริมเหนือ อำเภอแม่ริม ในช่วงเวลา 10 .30 น. วันที่ 28 กย.63 พร้อมของกลาง หมวกกันน๊อก กระเป๋าสะพายข้างสีดำ ถุงมือ รองเท้าผ้าใบ และเสื้อผ้าที่ใส่วันก่อเหตุและเงินสดอีก 200 บาทและมีอาวุธมีดปังตอ ยาวขนาด 1.5 เมตร ที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวน นายสุนันทวัฒน์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากตนป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบที่ผ่านมาเป็นพ่อค้าขายอาหารปรุงสุกที่ตลาดเทศบาลริมเหนือแต่หลังสถานการณ์โควิด 19 จึงทำให้ขายกับข้าวไม่ดี จึงได้ย้ายจากตลาดไปเปิดขายอาหารที่หน้าห้องพักแต่ก็ยังขายไม่ดีตนไม่มีเงินจ่ายค่าที่พักและซื้อกับอาหารมาปรุงขายจึงคิดสั้นและลงมือก่อเหตุไปส่วนเงินที่ได้มาจากการจี้ชิงทรัพย์นั้นก็นำไปซื้ออาหารมาปรุงขายหมดแล้วเหลือเงินเพียง 200 บาท กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัว
หลังสอบสวน พันตำรวจเอก มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก. สภ.แม่ริม และ ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุอีกครั้งก่อนจะนำผู้ต้องหามาสอบสวนเพิ่ม และตั้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี
กรรณิกา วชิรโสภาพรรณ