ผู้การแปดริ้ว

ผู้การแปดริ้วสรุปสาเหตุรถไฟชนรถบัส ด้านคปภ.เผยเงินเยี่ยวยา สูงถึง 10 ล้านบาท

ผู้การแปดริ้วสรุปสาเหตุรถไฟชนรถบัส ด้านคปภ.เผยเงินเยี่ยวยา สูงถึง 10 ล้านบาท

ผู้การแปดริ้วสรุปสาเหตุจากการวิเคราะห์ของการเกิดอุบัติเหตุ เผยตัวเลขใหม่เสียชีวิตยืนยัน 19 ราย  ขณะที่ด้านคดีความไม่สามารถแจ้งความเอาผิดผู้ขับขี่รถบัสได้เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว แต่ในทางแพ่งต้องเรียกร้องจากบริษัทของรถบัส  ด้าน คปภ.ภาค6(ชลบุรี) เปิดเผยเงินเยี่ยวยาในส่วนต่างๆ สูงถึง 10 ล้านบาท แต่เบื้องต้นสามารถจ่ายให้ญาติของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้ในวง 35,000 บาทต่อรายก่อน

เวลา 11.00 น. วันนี้ ( 12 ต.ค. 63 ) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.ชาคริต  สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยนางสายขวัญ เกตุดำ  ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงานคปภ.ภาค6(ชลบุรี)  ได้แถลงข่าวข้อมูลต่อสื่อมวลชน จากเหตุการณ์รถไฟชนรถบัส บริเวณจุดตัดรถไฟ สถานีชุมทางคลองแขวงกลั่น ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา  

พล.ต.ต.ชาคริต  สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ข้อมูลอัพเดทนผู้เสียชีวิต ณ ขณะนี้ จำนวน 19 ราย  จากเดิม 18 ราย   สำหรับรายที่ 19  คือนายปัญญา  สีลารัตน์  ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หลังจากได้ย้ายตัวไปรักษาที่กรุงเทพมหานครเมื่อช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา  ส่วนผู้บาดเจ็บ ณ ขณะนี้ จำนวน 39 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลพุทธโสธร โรงพยาบาลบ้านโพธิ์  โรงพยาบาลเกษมราษฏร์และโรงพยาบาลคลองเขื่อน   สำหรับอาการหนักๆที่อยู่ในห้อง ICU 3 รายประกอบด้วย นายสุปัญญา สารีรัตน์,นายฤทธิ์  เวียงคำและนายจักรพงษ์  ภูครองผา  ส่วนการวิเคราะห์สาเหตุนั้นเกิดจาก 1.ผู้ขับขี่รถบัสไม่คุ้นชินเส้นทาง โดยเฉพาะจุดตัดรถไฟ  2. ในรถบัสโดยสารมีการเปิดเพลงเสียงดังซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ  3.จุดเกิดเหตุไม่มีเครื่องกั้นทางรถไฟ แต่มีป้ายเตือนและสัญญาณไฟชัดเจน 4.จุดเกิดเหตุมีลักษณะเป็นทางลาดชัน ผู้ขับขี่ต้องเร่งความเร็วเพื่อขับรถผ่าน 5.ภายในรถบัสโดยสารมีการบันทุกผู้โดยสารมากกว่าปกติ จึงเร่งเครื่องขึ้นเนินได้ช้ากว่าปกติ และ6 รถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วส่งผลให้ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะกระชั้นชิดได้ทัน  ส่วนในเรื่องของคดีความนั้น ผู้ขับขี่รถบัสได้เสียชีวิตไปแล้ว ในทาคดีความอาญาคงสิ้นสุดลง แต่ทางแพ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังคงเรียกร้องจากบริษัทรถบัสคันดังกล่าวได้   ส่วนเงินที่ผู้เสียชีวิตจะได้รับจะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินจากประกันสังคม  จะได้ค่าปลงศพ จำนวน 80,000 บาท ส่วนค่ารักษาตามสิทธิประกันสังคม  ในส่วนที่ 2 คือ ประกันภัยจากรถยนต์โดยสาร ที่มีประกันภัยอยู่คือประกันภัยคุ้มภัยผู้ประสบภัยจากรถ และประกันภัย ประเภทสมัครใจ คุ้มครองประเภท 3

ด้านนางสายขวัญ เกตุดำ  ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงานคปภ.ภาค6(ชลบุรี)   เปิดเผยว่า  โดยประกันภัยประเภทสมัครใจ คุ้มครองประเภท 3  กรณีเสียชีวิตสูงสุด จะได้เงินเยี่ยวยาจำนวน 500,000 บาท ต่อราย ความคุ้มครองต่อครั้งไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง  โดยมีสัญญาในการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร  กรณีเสียชีวิต 50,000 บาทต่อราย  โดยมีค่ารักษา 50,000 บาทต่อวัน   โดยในผลคดีทาง คปภ.ยึดตามผลของตำรวจ คือรถบัสประมาท ซึ่งในกรรมธรรประกันภัย จะต้องมาจ่ายชดใช้ ในส่วนของ พ.ร.บ.จำนวน 500,000 บาท ต่อคน  ซึ่งขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตจำนวน 19 ราย รายละ 500,000 บาท ก็จะเกินจากวงเงินคุ้มครอง 10 ล้านบาท  ซึ่งต้องอาจใช้หลักในการเฉลี่ยเงินกันให้ได้ทุกคนในวงเงิน 10 ล้านบาท  เบื้องต้นสามารถจ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ญาติได้ ในส่วนของ 35,000 บาท ก่อน

วิชัย ต่อเชื้อ รายงาน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม