ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี สองคนร้ายใช้ผ้าขาวม้าโพกหน้า ก่อเหตุยิงชาวบ้าน ในพื้นที่ ต. นาท่อม จังหวัดพัทลุงเสียชีวิต และบาดเจ็บ
วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา.ที่ห้องประชุม สถานีตำรวจ สภ.โคกชะงาย อเมือง จ.พัทลุง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภจว พัทลุง ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.โคกชะงาย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และชุดสืบ ภาค 9 เพื่อเร่งคลี่คลายคดี2 คนร้ายขับรถ จยย ใช้ผ้าขาวม้าปกปิดใบหน้าใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม ยิงนายนายนิสาโรจน์ จันทร์ทอง อายุ47 ปี เสียชีวิต ในขณะที่นายโสภณ สุวรรณจำรูญ อายุ 34 ปี ผู้เป็นหลานชายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 2 ต.นาท่อม อ.เมืองพัทลุง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น
โดยจากการสอบขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าสุด เชื่อว่า เป้าหมายของคนร้ายคือนายโสภณ ฯ อายุ 34 ปี คนเจ็บ ส่วนนายนิสาโรจน์ ฯ ผู้เสียชีวิตน่าจะมีรับเคราะห์ไปด้วย เพราะขณะเกิดเหตุ นายนิสาโรจน์ ฯ ได้วิ่งออกมาจากบ้านเพื่อมาห้ามคนร้ายไม่ให้ยิงหลานชายทำให้คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่นายนิสาโรจน์ ฯ ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักไปในเรื่องการเชื่อมโยงคดีที่คนร้าย ใช้ไม้ทุบศีรษะและใบหน้านายชาลิต ขุนรักษ์ อายุ 33 ปี จนเสียชีวิตเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น ของวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา บริเวณคอกเลี้ยงหมูในพื้นที่ ในพื้นที่บ้านทารก หมู่ 2 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง พร้อมเร่งสอบประวัตินายโสภณ ฯ เป้าหมายของคนร้ายว่า มีการเชื่อมโยงกับคดีหรือประเด็นความขัดแย้งอื่น ๆ อีกหรือไม่อย่างไร
นางจีน จันทร์ทอง อายุ 79 ปี มารดาของนายนิสาโรจน์ ฯ เล่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายนิสาโรจน์ ฯ บุตรชาย ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร ทั้งยังมีอาการป่วย ต้องกินยาของหมออย่างต่อเนื่อง ส่วนนายโสภณ ฯ เป็นหลานชาย ที่มาช่วยดูแลโคพื้นเมืองที่ตนเลี้ยงไว้ ทำหน้าที่เป็นคนตัดหญ้าให้โคพื้นเมือง ที่เลี้ยง ซึ่งตนก็ให้เงินใช้จ่ายบ้าง ในช่วงเกิดเหตุ ตนอยู่ที่บ้านอีกหลังติดกัน ก็ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด พร้อมกับนายนิสาโรจน์ ฯ วิ่งออกมาจากในบ้าน เพื่อจะห้ามปรามไม่ให้คนร้ายยิงนายโสภณ ฯ แต่กลับถูกยิงไปด้วย ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่า สาเหตุมาจากเรื่องอะไร พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามหาตัวคนต่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วน
ส่วนในที่เกิดเหตุ เมื่อช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ได้ลงพื้นที่ เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่สามารถเก็บปลอกกระสุนอาวุธปืนได้เพิ่มเติม รวมทั้งหมดทั้งเก็บได้เมื่อคืนและเมื่อช่วงเช้าจำนวน 16ปลอก หัวกระสุนปืน อีกจำนวน 2 หัว และจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบด้วยว่า จุดที่คนร้ายยิง กับจุดที่นายโสภณ ฯเป้าหมายยืนอยู่ห่างประมาณ 25 เมตร ทำให้สันนิฐานได้ว่า ผู้ก่อเหตุ น่าจะเป็นกลุ่มมือปืนที่มีความชำนาญ โดยคนร้ายคงจะใช้ปืน 2 กระบอกและคาดว่าคนร้ายคงจะลงมือก่อเหตุยิงทั้งสองคน ทั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืนได้ต่างสีกัน โดยพบปลอกกระสุนสีตะกั่วจำนวน 11 ปลอก และสีทองเหลืองอีกจำนวน 5 ปลอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำปลอกกระสุนที่เก็บได้ ไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งว่า กระสุนที่เก็บได้ ออกจากมากปากกระบอกปืนกี่กระบอก
พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก ภจว พัทลุง ยังกล่าวยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกชะงายเคยเรียกตัวนายโสภณ ฯ คนเจ็บมาสอบปากคำในคดีคนร้ายใช้ไม้ทุบนายชาลิต ฯ เสียชีวิตที่คอกหมู หลายครั้ง ซึ่งนายโสภณ ฯ ก็ให้การเป็นประโยชน์ กับเจ้าหน้าที่พอสมควร ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับคดีนายชาลิต ฯ หรือไม่อย่างไร ทางตำรวจยังไม่สามารถฟันธงได้ อยู่ในระหว่างการสอบขยายผล ผู้การตำรวจพัทลุง ยังบอกด้วยว่า คดีนายชาลิต ฯ น่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุจำนวน 2 คน เพราะในที่เกิดเหตุมีร่องรอยลากร่างของนายชาลิต ฯ ก่อนจะนำร่างมาพาดไว้ที่กำแพงคอกหมู ฯซึ่งในคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ 2 – 3 คน รวมทั้งนายโสภณ ฯ ด้วย
อย่างไรก็ดีล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแบ่งการปฏิบัติงานออกเป็น 2 ชุด โดยทาง พนักงานสอบสวน ได้มีการเร่งรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เป็นพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ในขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เพื่อเร่งคลี่คลายคดีให้ได้เร็วที่สุด