ชาย-หญิงเร่ร่อนข้ามจังหวัดมาปักหลักยึดใต้สะพานเป็นที่พักอาศัยหางานทำ หลังโควิด-19 พ้นพิษตกงานหลายเดือน
เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กอ.รมน. พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเทศกิจ เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา โดยการนำของ นายมหัตม์ มงคล ป้องกันจังหวัดฉะเชิงเทรา , พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าตรวจสอบบุคคลเร่ร่อนที่เข้ามาพักอาศัยอยู่ใต้สะพานต่างระดับหน้าโรงพยาบาลเกษมราช ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านและผู้ที่ผ่านเส้นทางในบริเวณนั้น ว่ามีกลุ่มบุคคลทั้งชายและหญิงมาพักอาศัยอยู่บริเวณใต้สะพาน และยังมีพฤติกรรมมั่วสุมดื่มสุรา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบว่ามีบุคคลเข้ามาปักหลักพักอาศัยอยู่ด้วยกันจำนวน 3 กลุ่ม กลุ่มละ 2 คน กระจายตามจุดต่างๆ บริเวณใต้สะพาน ซึ่งเป็นชายทั้งสิ้น 5 คน และหญิง 1 คน โดยแต่ละคนมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดทั้งสิ้น และยังมีบางคนมีอาการป่วยเป็นวัณโรค นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีการประกอบอาหาร หุงต้มในพื้นที่ดังกล่าวโดยเป็นลักษณะก่อกองไฟ มีที่นอน หมอนมุ้ง และยังมีขวดพลาสติกและของเก่ากองไว้ตามจุดต่างๆ ซึ่งกลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้หาเก็บของเก่าเพื่อนำไปขายและพอได้เงินมาก็จะเอามาซื้ออาหารและเหล้ากินกัน ส่วนเศษอาหารที่เหลือก็จะถูกนำมาโยนทิ้งในบริเวณแถวนั้น จนเกิดเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มคนเร่ร่อนกลุ่มนี้ หลายคนไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกด้วย
ซึ่งจากการสอบถามและพูดคุยกับกลุ่มคนเร่ร่อนกลุ่มนี้พบว่าหลายคนต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาหางานทำ เพราะเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้ตกงานและถูกเลิกจ้างมาเป็นเวลาหลายเดือดแล้ว ประกอบกับในพื้นที่เดิมที่เคยพักอาศัยและทำงาน มีการเข้มงวดในมาตรการเคอร์ฟิวทำให้ต้องเดินทางข้ามจังหวัดมาหางานทำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำมาตรการดูแลตนเอง และขอให้เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยจะมีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้การช่วยเหลือและเดินทางกลับ โดยไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่สาธารณะแห่งนี้เป็นที่พักอาศัยอีกต่อไป
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา