แพร่-สลดไฟไหม้บ้านแม่เฒ่าวัย 77 ปี ป่วยติดเตียง ถูกไฟคลอกดับคากองเพลิง
ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ หล้าคำมี รอง.สว.(สอบสวน )หนองม่วงไข่ ปฎิบัติหน้าที่ รอง สว.(สอบสวน )สภ.สะเอียบ ได้รับแจ้งจากจุดตรวจบ้านป่าเลาว่าได้มีไฟใหม้บ้านที่บ้านป่าเลา หมู่ที่3 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่จึงได้แจ้งรายงานให้ พ.ต.ท.สงกรานต์ ใจมาก สวป.สภ.สะเอียบ รักษาการสารวัตรใหญ่ สภ.สะเอียบ ทราบพร้อมรุดที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.สะเอียบ อีก 5 นาย พบบ้านที่กำลังถูกไฟใหม้วอดทั้งหลัง และทราบว่ามีผู้เสียชีวิตในกองเพลิงอีก1คน ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถหนีได้ขณะเพลิงกำลังลุกไหม้ ไม่มีใครสามารถฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปได้เพราะไฟกำลังโหมอย่างหนักและเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ชั้นเดียว(บ้านต่ำ)บวกกับมีลมกรรโชกแรง
จึงไม่มีใครเข้าไปช่วยได้จนรถดับเพลิงได้มาถึงและฉีดน้ำสกัดไว้ ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยใช้รถฉีดน้ำของอบต.สะเอียบ 1คัน รถฉีดน้ำจาก อบต.เตาปูน 2คัน รถฉีดน้ำจากศูนย์ควบคุมไฟป่าแม่ยมอีก1คัน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตบุตรคนเล็กและพี่ชายรองพากันนำร่างออกจากกองเพลิงออกมาที่ทนสภาพเห็นแม่ถูกไฟไหม้อยู่ในกองเพลิงไม่ได้ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ชื่อ นางคำน้อย ทะแก้ว อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่3 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ทราบในเวลาต่อมาว่า ปกตินางสมศรี บุกหล้า อายุ 54 ปี บ้านเลขที่95 หมู่3 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ลูกสาวคนโตที่ได้มาพักอาศัยอยู่เพื่อดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงด้วยประจำพร้อมด้วยหลานอีก5คนที่ได้เฝ้าดูแม่ที่ป่วยติดเตียงมานานแล้วในวันที่เกิดเหตุ หลังจัดทำหาอาหารให้แม่ทานแล้วจึงได้ออกไปทำงานที่โรงงานทำตะเกียบอยู่ห่างออกไปประมาณ 3.กิโลเมตรทุกวันหลังจากทำอาหารให้แม่เสร็จป้อนข้าวแม่แล้วก็จะออกไปทำงานทุกวันและมื้อกลางวันก็เอาข้าวมาให้ทานและจะกลับมาในช่วงเย็นแทบทุกวัน
โดยในวันนี้ปกติก็จะเปิดพัดลมให้แม่ตามปกติและออกจากบ้านไปประมาณ20นาทีเพื่อนบ้านก็โทรไปบอกว่าไฟใหม้บ้านเลยรีบมากับสามีก็พบว่าไฟได้ลุกใหม้จนไม่สามารถเข้าไปข่วยแม่ได้ ทางด้านพนักงานสอบสวนเบื้องต้นพอทราบว่าได้มีผู้เสียชีวิตในกองเพลิง จึงได้ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลสองให้มาร่วมตรวจสอบชันสูจน์พลิกศพร่วมกันและในเวลา12.15น.นายแพทย์วันชัย วันทนียวงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสองทำหน้าที่แพทย์เวรประจำวันโรงพยาบาลสองร่วมชันสูตร พลิกศพในสภาพที่ถูกไฟไหม้คงเหลือไว้แต่ตัวในสภาพที่ถูกไหม้เกียม จนจำสะภาพเดิมไม่ได้พร้อมบันทึกและสอบถามญาติว่าติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ นายสุทน ทะแก้ว อายุ 52 ปี บุตรชายอีกคนหนึ่งที่ไม่ติดใจเอาถึงสาเหตุการเสียชีวิตส่วนทางพนักงานสอบ สวนสภ.สะเอียบ สอบถามญาติแล้วและไม่ติดใจสงสัยในการ เสียชีวิตเพราะไม่อยู่ในข่ายในการประทุษร้ายเพื่อหวังผลประโยชน์ในด้านอื่นๆจึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทายาทเพื่อนนำไปประกอบพิธีทางศาสนาในลำดับต่อไป ส่วนสาเหตุเพลิงลุกไหม้ครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรอผลการตรวจโดยละเอียดจากพฐ.จังหวัดแพร่ที่จะได้เดินทางมาที่เกิดไฟไหม้ในรอบบ่ายนี้
อดิศร ถิ่นทิพย์