พ่อนรกไลฟ์สดทำร้ายและข่มขู่ลูกประชดเมีย-หอบลูก 3 ขวบเผ่นหนีก่อนตำรวจจะไปถึง
แฉ “ไอ้เจ” พ่อนรกไลฟ์สดทำร้ายและข่มขู่ฆ่าลูกประชดเมีย-หอบลูก 3 ขวบเผ่นหนีก่อนตำรวจและ พม.จะไปถึง-หนุ่มเจ้าของค่ายไก่ชนเผยสงสารเด็กหลับมาขออยู่อาศัยก่อนก่อเหตุฉาว
จากกรณีที่ชายหนุ่มไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ค “สายลม ที่มองไม่เห็น” ประชดเมียด้วยการทำร้ายลูกชายวัย 3 ขวบก่อนจะใช้มีดจี้ข่มขู่จะฆ่าลูกโชว์เพื่อให้เมียกลับมาอยู่ด้วยกัน ในขณะที่เมียพยายามพูดจาสโตอบโค้และท้าทายจนกลายเป็นกระแสการวิพากวิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อประมาณตี 2-3 ของของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพื้นที่ไลฟ์สดดังกล่าวถูกระบุว่าอยู่ในซอยคลองห้วย ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่ พม.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่สืบหาจุดที่ชายคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในซอยคลองห้วยทั้งซอย 1 และซอย 2 แต่ไม่พบจนได้เยาะแสว่าแท้จจริงอาศัยอยู่ในซอยต้นหว้า 6 /1 ชุมชนต้นหว้า ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงเดินทางเข้าไปหาพบว่าจุดดังกล่าวเป็นค่ายเลี้ยงและผสมพันธ์ไก่ชนของนายารุณ วันดาว อายุ 45 ปี หรือ “แอ๊ด ต้นหว้า” จึงเข้าไปตรวจสอบทราบว่านายคนดังกล่าวชื่อนายเจ ไม่ทราบยนามสกุล อายุ 29 ปี บ้านเดิมอยู่ชุมชนสวนจันทร์ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาขออาศัยอยู่พร้อมลูกชายวัย 3 ขวบ แต่ได้พาลูกชายหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและ พม.จะเข้ามาถึง
นายวารุฯ หรือแอ๊ด “ต้นหว้า” กล่าวว่านายเจ คนที่ไลฟ์สดเป็นเพื่อนรุ่นน้อง กับตนรู้จักกันหลายปีแล้วตั้งแต่สมันที่ตนยังเที่ยวเกเรอยู่ แต่ในปัจจุบันตนมาได้เมียในที่เกิดเหตุและหันมาประกอบอาชีพเลี้ยงและเพาะพันธุ์ไก่ชนขายทั้งในและต่างประเทศ โดยเมื่ออาทิตย์ก่อนนายเจ ได้พาลูกมาที่บ้านและบอกว่าขอพักอาศัยสักคืน ตนก็อนุญาต แต่หลังจากนั้นนายเจ ก็ก็อยู่ต่อตนก็ไม่กล้าขับไล่เพราะสงสารเด็กอายุ 3 ขวบ จึงบอกว่าอยากจะอยู่ก็อยู่ได้แต่อย่าสร้างปัญหา โดยตนยอมสละเตียงที่นอนในค่ายเลี้ยงกให้นายเจ นอนกับลูก และยังช่ายซื้อแพมเพิส และนมให้อีกด้วย เท่าที่สอบถามประวัตินายเจ มีภรรยาเป็นชาว จ.พัทลุง แต่ไปทำงานในประเทศพม่า มีลูกด้วยกัน 2 คน ต่อมานายเจ ไม่มีเมียใหม่แต่ก็เลิกรากันไป นายเจ จึงมาขอคืนดีกับกับเมียเก่า แต่เมียเก่าไม่ยอมคืนดีด้วย นายเจ จึงขอลูกชายคนโต นำกลับประเทศไทย ส่วนลูกชายคนเล็กให้เมียเลี้ยงดูอยู่ที่ประเทศพม่า ซึ่งนายเจ บอกตนว่าเมียจะตามมาอยู่ด้วยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และจะโอนเงินมาให้นายเจ ใช้เลี้ยงลูกชายทุกวัน ๆ ละ 300-400 บาท
อย่างไรก็ตามนายเจ รอคอยเมียรักเป็นเวลานานก็ไม่ยอมกลับมา จ.นครศรีธรรมราช ทำให้นายเจ ไม่พอใจและเกิดการหึวงพวงเพราะเข้าใจว่าเมียรักมีผู้ชายคนใหม่ ในคืนเกิดเหตุตนยอมไปนอนที่มุมหนึ่งในค่ายเลี้นงไก่ เพราะสละเตียงและที่นอน พร้อมมุ้งให้นายเจ นอนกับลูกโอคลอและไลฟ์สดกับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าใจว่าเป็นเมียของนายเจ และทำการทุบตีลูกชายจนร้องให้เพื่อบีบกดดันให้เมียกลับมาอยู่ด้วยกันมี่นครศรีธรรมราช โดนบอกว่าจะกระททารุณกรรมลูกชายทุกวันจนกว่าเมียจะยอมกลับมา ในขระที่เมียก็พูดตอบโต้ในลักษณะท้าทายทำให้นายเจ มีอารมณ์โกรธแป้นมากยิ่งขึ้นและยิ่งทุบตีลูกชายหนักมากขึ้น ตนจึงตัดสินใจเข้าไปห้าม ในขระที่นายเจ ได้ใช้มีดจี้ข่มขู่พร้อมตะโกนบอกเมียว่าหากไม่ยอมกลับมาอยู่กินด้วยกันที่นครศรีธรรมราชกูจะฆ่าลูกให้ตาย ตนทนไม่ไหวจึงตรงเข้าไปบอกนายเจ ว่าหากมึงแมงลูกกูจะแทงมึงให้ตายตกไปตามกัน พร้อมขอร้องให้เมียนายเจ วางสายไปอย่าพูดยั่วอารมณ์เพราะนายเจ จะมีอารมณ์โกรธแค้นทำร้ายลุกหนักยิ่งขึ้น จนเมียนายเจ ยอมวางสายสถานการณ์จึงกลีบเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากนั้นตนได้บอกกับนายเจ ว่าอย่าทำแบบนี้กับลูก หากทำแบบนี้อให้ออกไปอยู่ที่อื่น ตนไม่ให้อยู่อีกแล้ว นาเจ ก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก
นายวารุณ กล่าวอีกว่าจนกระทั้งเมื่อเช้าวันนี้ (4 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจและ พม.นครศรีธรรมราช ยกขบวนแห่มาจำนวนมาก แต่นายเจ ได้หอบลูกน้อยวิ่งหลบหนีไปทางด้านหลังโดยบอกว่าอยู่ไม่ได้แล้วจะไปอยู่บ้านญาติที่ อ.นบพิตำ หรือ อ.ขนอม เจ้าหน้าที่จึงยังจับกุมนายเจ ไม่ได้ และตนมั่นใจว่าลุกนายเจ ยังปลอดภัย แต่ก็ไม่แน่ใจว่านายเจ จะกล่าฆ่าลูกตัวเองตามที่ไลฟ์สดข่มขู่หรือไม่ แต่หากเมียของนายเจ ไม่พูดจายั่วยุอารมณ์นายเจ คงไม่ทำรายหรือฆ่าลูกอย่างแน่นอน สำหรับตนที่ยอมให้นายเจ และลูกอาศัยเพราะสงสารเด็ก และการมาอยู่ตนก็ไม่ได้ประโยน์อะไรและยังต้องเสียค่าใช่จ่ายช่วยเหลือเด็ก โดยซื้อนม แพมเพิสให้ด้วย และรู้สึกไม่สบายใจที่ญาติ ๆ และเพื่อนบ้านไม่ค่อยพอใจตนที่หาเรื่องเดือดร้อน แต่ตนให้อยู่อาศัยและช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ซึ่งตนได้ให้รายละเอียดทั้งหมดกับตำรวจและ พม.ไปหมดแล้ว และหากนายเจ ติดต่อกลับมาจะบอกว่าให้มอบลูกให้เจ้าหน้าที่ไปเลี่ยงดูจะดีกว่า นายวารุณ หรือ แอ๊ด ต้นหว้า”กล่าวยืนยันในที่สุด
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ ผู้สื่อข่าว จ.นครศรีธรรมราช